เที่ยว “นิการากัว” ประเทศที่สวยงามไม่แพ้ผู้รับตำแหน่งแห่งจักรวาลมิสยูนิเวิร์ส 2023 “Sheynnis Palacios” จนได้รับการขนานนามให้เป็นดินแดนแห่งทะเลสาบและภูเขาไฟ เพชรเม็ดงามแห่งอเมริกากลาง
“Sheynnis Palacios” จาก “นิการากัว” คว้า Miss Universe 2023
รู้จัก “นิการากัว” ดินแดนสวรรค์ของนักเล่นเซิร์ฟ กาแฟชื่อก้องโลก
การท่องเที่ยวใน “นิการากัว” (Nicaragua) ถือว่าโดดเด่นไม่แพ้สาวงาม “Sheynnis Palacios” ผู้คว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์ส 2023 ไปครองเลย เพราะที่นี่ได้รับการขนานนามให้เป็น “ดินแดนแห่งทะเลสาบและภูเขาไฟ” เพชรเม็ดงามแห่งอเมริกากลาง ที่มีภูมิประเทศเอื้ออำนวยต่อการเล่นเซิร์ฟและผลิตกาแฟชั้นเยี่ยน จนได้รับกย่องให้เป็นดินแดนสวรรค์ของคนเล่นเซิร์ฟและที่จิบกาแฟอาราบิการางวัลระดับโลก
วันนี้ PPTVHD36 จึงขอพาทุกคนบินลัดฟ้าไปตะลุยชมเพชรเม็ดงามแห่งอเมริกากลางกัน!
Mombachi
ภูเขาไฟ Mombacho เป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่มีชื่อเสียงที่สุดในนิการากัว เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับเมือง กรานาดา และ ป่าเมฆ (Cloud Forests) ที่แปลกตา ซึ่งเป็นที่อยู่ของเสือพูมา ลิงฮาวเลอร์ และสัตว์สายพันธุ์แปลกใหม่อื่น ๆ อีกมากมาย
การเดินชมภูเขาไฟที่นี่แม้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นประสบการณ์คุ้มค่าที่จะทำให้หัวใจของคุณเต้นแรงได้ เพราะนอกจากจะได้ชมความงามของปล่องภูเขาไฟทั้ง 4 แห่ง และสัตว์ป่าหลากหลายสายพันธุ์แล้ว ยังเพลิดเพลินกับอุณหภูมิที่เย็นกว่าที่อื่นๆ ของประเทศนี้ได้ด้วย แต่แนะนำว่าอย่าลืมจองไกด์กันนะเพื่อการผจญภัยที่ดีที่สุด
Cloud Forests
คนอยากขี่ม้าท่องเที่ยว ไม่ควรพลาด! หากคุณได้มาที่ป่าเมฆ จะได้ทำกิจกรรมที่ชอบแน่นอน โดยทุกคนจะได้ออกไปสำรวจเส้นทางธรรมชาตินอกเมืองกรานาดา และส่วนที่ดีที่สุดระหว่างทางนั้น คือการเยี่ยมชม “ทะเลสาบอาโปโย” เป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติที่มีต้นกำเนิดเมื่อ 23,000 ปีก่อน ถือเป็นจุดพักม้าที่จังหวะกำลังดี เพราะสามารถพาม้าไปกินหญ้าหลบแดดในคลายร้อนได้หลังตากขี่มาสักระยะ ขณะเดียวกันเรายังสามารถว่ายน้ำให้ชุ่มฉ่ำตรงนี้ได้อีกด้วย
Corn Islands
เกาะนี้อยู่ห่างจากชายฝั่งนิการากัวประมาณ 70 กิโลเมตร ประกอบด้วยเกาะ Big Corn และเกาะ Little Corn เกาะเหล่านี้มีอากาศอบอุ่นตลอดทั้งปีและมีแสงแดดสดใส เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างสมบูรณ์แบบ
ที่แห่งนี้นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการดำน้ำลึกที่ Coorn Island Dive Center บนเกาะ Big Corn ได้ หรือจะพายเรือคายัค ดำน้ำตื้น และนอนอาบแดดพักผ่อนบนชายหาดริมทะเลสีฟ้าใสของทะเลแคริบเบียนก็ได้
Cerro Negro
การขึ้นภูเขาไฟไม่เหมาะสำหรับทุกคน แต่สำหรับผู้ที่กล้าที่อยากลองกีฬาเอ็กซ์ตรีมนี้ ไม่มีที่ไหนจะดีไปกว่า “Cerro Negro” ในนิการากัว
ที่นี่ยังคงเป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ ซึ่งปะทุครั้งสุดท้ายในปี 1999 และได้รับการตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ด้วยเหตุผลอันท้าทายนี้ภูเขาไฟลูกนี้จึงเป็นสนามเด็กเล่นที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ชื่นชอบอะดรีนาลีน
การปีนขึ้นไปบนยอดภูเขาไฟใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง ไม่ว่าคุณจะจองบริษัททัวร์แห่งใด คุณจะต้องเตรียมกระดานบอร์ดติดตัวไปด้วยระหว่างการเดินบนยอดเขาที่มีความสูงถึง 2,388 ฟุต และทุกครั้งเมื่อบริษัททัวร์มาส่งคุณ หลังจากการสอนสั้นๆ เกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำ/ไม่ควรทำ และวิธีเร่งความเร็ว/ลดความเร็ว คุณจะได้สวม “ชุดนักบิน” คาดเอว และลงมาจากภูเขาไฟ ประสบการณ์ทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณสามถึงห้านาที ขึ้นอยู่กับว่าคุณหยุดหรือกลิ้งออกจากกระดานแบบไหน
The City of León
หลังจากผจญภัยบนผืนทรายที่ “Cerro Negro” แล้ว อยากให้ใช้เวลาเพื่อสัมผัสความงามและวัฒนธรรมของเลออน ซึ่งอยู่ห่างจากภูเขาไฟประมาณหนึ่งชั่วโมงของการเดินทางด้วยรถยนต์เท่านั้น
เลออนก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 1524 และทำหน้าที่เป็นเมืองหลวงระหว่างการปกครองของสเปนจนถึงปี 1855 เมืองนี้ได้รับการสถาปนามานานแล้วให้เป็นศูนย์กลางทางการเมืองและทางปัญญาเสรีนิยมของประเทศนิการากัว
เมื่อคุณมาถึงแล้ว ให้มุ่งหน้าไปยังจัตุรัสหลัก “เซ็นทรัลพลาซา” และชมิหรือที่รู้จักกันในชื่อ “อาสนวิหารอัสสัมชัญแห่งเลออน” มหาวิหารแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันโดดเด่น สร้างขึ้นระหว่างปี 1747 ถึงต้นศตวรรษที่ 19 และได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกในปี 2011 ดังนั้นเมื่อคุณเดินทางไปแล้ว อย่าลืมสำรวจหลังคาและดื่มด่ำกับสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองและสถาปัตยกรรมอันสง่างามนี้ด้วย
ห่างออกมาไม่ไกลยังสามารถเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของนิการากัวได้อีกกับ พิพิธภัณฑ์ศิลปะมูลนิธิ Ortiz-Gurdian (Museo de Arte Fundacion Ortiz-Gurdian) อดีตบ้านของ Norberto Ramírez Areas ทนายความและนักการเมืองคนสำคัญของนิการากัว ซึ่งล่าสุดได้ถูกดัดแปลงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงผลงานศิลปะที่มีชื่อเสียงจากศิลปิน เช่น Diego Rivera, Picasso, Chagall และ Matisse และอื่นๆ อีกมากมาย
Las Salinas
ด้วยลมนอกชายฝั่งที่แรงและสม่ำเสมอ มีให้เหล่านักเล่นเซิร์ฟได้โต้คลื่นกันได้ตลอดทั้งปี ทำให้ที่ “Las Salinas” เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเล่นเซิร์ฟที่สุดในโลก อีกทั้งยังมีน้ำอุ่น แถมยังมีความเป็นส่วนตัวสูง ลองคิดดูว่าถ้าได้เล่นเซิร์ฟบนคลื่นนุ่ม ๆ แถมยังไม่ต้องสนใจคนรอบตัวมากเหมือนอย่างฮาวายจะดีมากแค่ไหน
นิการากัวมีอาหารให้ลองกว่า 2,000 เมนู
อาหารของนิการากัว จะเป็นการผสมผสานข้าวโพดและมะพร้าวเป็นหลัก และแต่ละท้องถิ่นจะมีอาหาร เครื่องดื่ม และของหวานของตัวเองอีก ใครที่ได้มาที่นี่จึงไม่ต้องกลัวเลยว่าจะเบื่อ เพราะเมื่อนับแล้วมีมากกว่า 2,000 เมนูให้ลอง แต่เมนูที่ขึ้นชื่อของที่นี่คือ "Gallopinto" , “Nacatamal”, “Vigoron” และ “Rundown”
พาบินลัดฟ้ากันให้เห็นทั้งหมดนี้ จะเห็นว่าแม้นิการากัวจะยังไม่เป็นจุดหมายปลายทางของเหล่านักท่องเที่ยวในช่วงที่ผ่านมา แต่เพชรต่อให้ตกลงไปที่ไหน หรือซ่อนอย่างไร ก็ยังสวยงามฉายแสงแวววาวได้เสมอ และในตอนนี้อัญมณีที่ถูกซ่อนอยู่ใจกาอเมริกากลางนี้ก็ได้ถูกเปิดเผยให้ทุกคนได้รับรู้อีกครั้งไปพร้อมกับรางวัลแห่งจักรวาลของมิสยูนิเวิร์ส 2023
ขอบคุณข้อมูลจาก : Nationalgeographic
เปิดประวัติคนมง “เชย์นิส ปาลาซิออส” ชาวนิการากัวคนแรกที่คว้ามงกุฎ Miss Universe
แฟนนางงามข้องใจนิการากัว ใช้ล่ามถ่วงเวลา? ตอบคำถาม
ด่วน! 4 คนร้ายบุกยิงนักเรียนช่างภายในซ.ระนอง 2 เสียชีวิต 1 ราย
โดดเด่นบนเวที Miss Universe! “ชุดเทพธิดาอาณาจักรอยุธยา“ ถูกเลือกลงหนังสือพิมพ์ ”เอลซัลวาดอร์“
มอเตอร์เวย์ M81 “บางใหญ่ - กาญจนบุรี” เตรียมเปิดทดลองใช้ฟรีปลายปี