เที่ยวลำปาง แจก 3 พิกัด ต้องไปเช็กอิน ท่องเที่ยวสโลว์ไลฟ์

ออกเดินทางตามหาความเรียบง่ายที่สบาย ๆ ให้ตัวเองได้ผ่อนคลายลงบ้างก็คงดีไม่น้อย ยิ่งเรามีเวลาไม่มาก วันลาพักเริ่มหมด แต่อยากออกไปเที่ยว วันนี้จะพาทุกคนไปจังหวัดที่เที่ยวได้เรื่อย ๆ เหมือนเราหยุดเวลาไว้ ว่าแล้วก็แพ็กกระเป๋าออกเดินทางไปเที่ยวลำปาง เพราะเรามี 3 จุด ที่ต้องไปเช็กอิน ที่ไม่ควรพลาด

1. อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน 

อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน มีพื้นที่ 786 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุม 4 อำเภอ คือ อำเภอเมืองปาน อำเภอเมือง อำเภอแจ้ห่ม และอำเภอวังเหนือ ของจังหวัดลำปาง  

 

เป็นแนวแบ่งเขตระหว่างลำปางและเชียงใหม่ มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์และเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2531 ฤดูที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยว และมีอากาศเย็นสบาย คือช่วงเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์

- น้ำร้อนแจ้ซ้อน 

เป็นแหล่งน้ำพุร้อนทางธรณีวิทยา จำนวน 9 บ่อ ตั้งอยู่รวมกันในบริเวณพื้นที่ที่ทำการอุทยานฯ น้ำพุร้อนมีอุณหภูมิเฉลี่ย 73 องศาเซลเซียส มีกลิ่นกำมะถันอ่อน ๆ และมีไอน้ำลอยปกคลุมรอบบริเวณ เป็นที่นิยมนำไข่ไก่และไข่นกกระทามาแช่ สำหรับไข่ไก่แช่นานประมาณ 17 นาที ไข่แดงจะแข็งมีรสชาติมันอร่อย ส่วนไข่ขาวจะเหลวคล้ายไข่เต่า 

- น้ำตกแจ้ซ้อน 

เป็นน้ำตกที่เกิดจากลำน้ำแม่มอญ มีน้ำไหลตลอดทั้งปี และมีแอ่งน้ำรองรับเป็นชั้น ๆ อยู่ 6 ชั้น มีทางเดินจากบ่อน้ำพุร้อนไปถึงน้ำตก ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 1 กิโลเมตร - น้ำตกแม่มอญ เป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลแรงจากหน้าผาสูงลงสู่หุบเหวเบื้องล่าง ไม่เหมาะแก่การเล่นน้ำ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 5 กิโลเมตร 

- น้ำตกแม่ขุน 

อยู่ใกล้กับน้ำตกแม่มอญ มีความสูงประมาณ 100 เมตร ไหลลงมาบรรจบกับน้ำตกแม่มอญ ต้องเดินทางจากที่ทำการอุทยานฯ 5 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวควรติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานฯ นำทาง 

- ถ้ำผางาม 

ห่างจากที่ว่าการอำเภอวังเหนือ 8 กิโลเมตร อยู่บริเวณหน่วยพิทักษ์ฯ ที่แจ้ซ้อน 3 (ผางาม) หน่วยนี้อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 60 กิโลเมตร มีถ้ำที่สามารถเข้าไปท่องเที่ยวได้ เช่น ถ้ำฟ้างาม ถ้ำน้ำ และถ้ำหม้อ 

- ชมดอกเสี้ยวบานเต็มผืนป่า

ในช่วงเดือนมกราคม - เดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ดอกเสี้ยวจะบานเต็มผืนป่า นักท่องเที่ยวสามารถขับรถชมได้ตามเส้นทางแจ้ซ้อน-บ้านป่าเหมี่ยง ตลอดระยะทาง 18 กิโลเมตร

- จุดชมทิวทัศน์ดอยล้าน (กิ่วฝิ่น) 

ตั้งอยู่ห่างจากบ้านป่าเหมี้ยงไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตร อยู่ในพื้นที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนที่ จซ. 7 (ดอยล้าน) เป็นรอยต่อระหว่างจังหวัดลำปางกับจังหวัดเชียงใหม่ ในอดีตเป็นพื้นที่ที่ชาวเขาเผ่าม้งเคยใช้เป็นพื้นที่นัดพบเพื่อซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า รวมถึงการทำฝิ่น มีความสูง 1,525 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง มองเห็นทิวทัศน์และขุนเขาและความอุดมสมบูรณ์ของแมกไม้ได้ไกลสุดตา สามารถมองเห็นแสงไฟยามค่ำคืนได้ถึง 4 จังหวัด คือ ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ และเชียงราย เป็นจุดชมดวงอาทิตย์ขึ้น-ตก รวมทั้งชมความงามของทะเลหมอกตอนเช้าตรู่ในช่วงฤดูหนาวได้ 

อส.ปืนโหด! กระหน่ำยิงกลางร้านข้าวต้ม เสียชีวิต 2 เจ็บ 3

ฉายารัฐบาล ปี 2567 "รัฐบาลพ่อเลี้ยง" พร้อมฉายานายกรัฐมนตรี “แพทองโพย”

20 ที่เที่ยวปีใหม่ ใกล้กรุงเทพฯ ไปเช้าเย็นกลับ เดินทางง่าย

- ห้องอาบน้ำแร่ 

ที่อุทยานแจ้ซ้อน มีบริการห้องส่วนตัวและบ่อแช่น้ำแร่กลางแจ้ง โดยน้ำแร่ที่ใช้ต่อท่อโดยตรงมาจากบ่อน้ำพุร้อน อุณหภูมิประมาณ 39 - 42 องศาเซลเซียส ประโยชน์ของการอาบน้ำแร่คือ ช่วยบำบัดความเมื่อยล้าของร่างกาย ช่วยให้ระบบไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น แต่ไม่สามารถใช้ดื่มได้เพราะมีแร่ธาตุสูงกว่ามาตรฐาน ค่าบริการอาบน้ำแร่ คนละ 50 บาท อัตราค่าบริการเข้าอุทยานฯ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก อุทยานฯ มีบริการบ้านพัก สถานที่กางเต็นท์ ร้านค้าสวัสดิการ และร้านค้าของเอกชนไว้บริการนักท่องเที่ยว สอบถามข้อมูล อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน 

ที่อยู่ : ตำบลแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง
เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/Chaesonnationnalpark

2 . เดินชิว ที่ "กาดกองต้า"

"กาดกองต้า" หรือที่ชาวบ้านเรียกติดปาก "ตลาดจีน"  เป็นย่านตลาดเก่าตั้งอยู่ขนานกับลำน้ำวัง ในซอยตลาดจีนริมน้ำ มีอาคารโบราณอายุเหยียบร้อยปี บนถนนตลาดเก่าตลอดทั้งสาย ชุมชนกาดกองต้าถือเป็นถนนสายเศรษฐกิจ ที่มีความเป็นมาที่เก่าแก่ และมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ 

กาดกองต้า หมายถึงตลาดตรอกท่าน้ำ ในอดีตเคยเป็นตลาดที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เนื่องจากเมืองลำปางนั้นเคยเป็นศูนย์กลางทางการค้าของ ภาคเหนือย่านการค้าส่วนมากมักเกิดขึ้นริมฝั่งแม่น้ำสายใหญ่อย่างแม่น้ำวัง ทำให้เกิดชุมชนที่เข้ามาทำธุรกิจ เช่น อังกฤษ พม่า และจีน ซึ่งเป็นกลุ่มที่เข้ามาทำการค้ามากที่สุด จนกลายเป็นชุมชนชาวจีนขนาดใหญ่  

เราสามารถยกกล้อง ขึ้นมาถ่ายรูปอาคารบ้านเรือนบริเวณ กาดกองต้า สถาปัตยกรรมที่ผสมผสานความเป็นยุโรป จีน และ เมียนมา ทำให้ที่นี่เต็มไปด้วยบ้านเรือนหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น เรือนไทย เรือนล้านนา บ้านแบบเมียนมา บ้านแบบจีน  

ปัจจุบันที่นี่ได้กลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของ ลำปาง ไปแล้ว เป็นถนนคนเดินที่มีนักท่องเที่ยวมาเดินเที่ยวจับจ่ายใช้สอยกันอย่างหนาแน่น มีสินค้าพื้นถิ่น อาหารการกินมากมาย อย่าลืมแวะมาลำปาง ในช่วงหน้าหนาวนี้ครับ 

ที่อยู่ : กาดกองต้า ถนนตลาดเก่า ตำบลสวนดอก อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง
เปิดให้เข้าชม : 17.00-22.00 น. เฉพาะวันเสาร์ - วันอาทิตย์
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/kardkongta/  

3 . ขอพรก่อนกลับบ้าน “วัดพระธาตุลำปางหลวง” 

“วัดพระธาตุลำปางหลวง”  ถือเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองลำปางมาแต่โบราณ ตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี งดงามด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่มากมาย เป็นพระธาตุประจำปีฉลู ตั้งอยู่ตำบลลำปางหลวง อำเภอเกาะคา เป็นวัดที่มีมาตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี ราวปลายพุทธศตวรรษที่ 20 นับเป็นวัดไม้ที่มีความสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย มีสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่และงดงาม อีกทั้งยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนปีฉลู โดยเริ่มสร้างในปีฉลู และเสร็จสิ้นในปีฉลู เช่นเดียวกัน 

สันนิษฐานว่าสร้างในราว พ.ศ. 2042 สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด ได้แก่ พระธาตุลำปางหลวง มีฐานเป็นบัวลูกแก้ว ส่วนองค์พระธาตุเป็นทรงกลมแบบล้านนา ยอดฉัตรทำด้วยทองคำ มีลายสลักดุนเป็นลวดลายประจำยามแบบต่างๆ ลักษณะเจดีย์แบบนี้เป็นต้นแบบของพระธาตุหริภุญไชยและพระบรมธาตุจอมทอง

วัดพระธาตุลำปางหลวง ยังเป็นที่ประดิษฐาน “พระแก้วดอนเต้า” (พระแก้วมรกต) พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลำปาง เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ศิลปะล้านนา สลักด้วยหยกสีเขียว โดยจะมีการจัดงานนมัสการพระแก้วดอนเต้าในวันเพ็ญเดือน 12 ของทุกปี

และไฮไลต์เมื่อมาที่วัดพระธาตุลำปางหลวง คือการได้ชม มหัศจรรย์เงาพระธาตุ และ พระวิหารในมุมกลับ ที่เข้าไปชมได้เฉพาะผู้ชายเท่านั้น  

ที่อยู่ : วัดพระธาตุลำปางหลวง 271 ตำบลลำปางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง
เปิดให้เข้าชม : 07.30-17.00 น.

เดินทางสะดวกสบาย โดยสารสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ให้บริการวันละ 2 เที่ยวบิน จากสนามบินสุวรรณภูมิ สู่ลำปาง สำรองที่นั่งคลิก! บางกอกแอร์เวย์ส หรือโทรสอบถาม 1771 ตลอด 24 ชั่วโมง