ธนาคารโลก เตือน ประเทศกำลังพัฒนาเผชิญภาระหนี้เพิ่มขึ้นจากการระบาดโควิด

ซึ่งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้เพิ่มความเสี่ยงด้านหนี้สินในกลุ่มประเทศเหล่านี้ท่ามกลางการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มอ่อนแอลงก็จะยิ่งเพิ่มภาระหนี้สิน และจะบั่นทอนความสามารถในการชำระคืนหนี้

อัปเดต สถานการณ์โควิด-19 ล่าสุด 6 ม.ค. 2564

โควิด-19 ระลอกใหม่ ไทยจำเป็นต้องกู้เงินเยียวยา? กู้ไปแล้วเท่าไหร่ และใช้ทำอะไรบ้าง

โดยในรายงานเศรษฐกิจโลกปี 2564 ที่ยังคงเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 4%  บนสมมติฐานว่าจะสามารถพัฒนาและผลิตวัคซีนได้ ลดลงจากเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 4.3% เมื่อเดือน มิ.ย.2563

“ การระบาดของโรคนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตและเจ็บป่วยจำนวนมาก ทำให้คนนับล้านตกอยู่ในความยากจนและอาจทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและรายได้ตกต่ำเป็นระยะเวลานาน ”

ในขณะที่เศรษฐกิจโลกดูเหมือนจะเข้าสู่การฟื้นตัวอย่างแผ่วเบา รัฐบาลต้องเผชิญกับความท้าทายกับการจัดงบประมาณด้านสาธารณสุข หนี้สาธารณะ ซึ่งเผชิญความเปราะบางและเป็นตัวฉุดเศรษฐกิจ 

โดย คาดว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะขยายตัว 2.5% ในปี 2564 ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจจีนขึ้น 1% สู่ระดับ 7.9% เศรษฐกิจสหรัฐนั้น ธนาคารโลกคาดว่าจะขยายตัว 3.5% ในปี 2564 เศรษฐกิจยูโรโซนจะขยายตัว 3.6% ในปี 2564

สำหรับในปี 2565 ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลก มีแนวโน้มขยายตัว 3.8% โดยคาดว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะยังคงส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ซึ่งรวมถึงการสร้างความเสียหายต่อการลงทุนและการจ้างงาน

การระบาดใหญ่ทำให้ความเสี่ยงด้านหนี้ในตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนาเลวร้ายลงอย่างมาก แนวโน้มการเติบโตที่อ่อนแอมีแนวโน้มที่จะเพิ่มภาระหนี้และทำลายความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้