โรงแรมวิกฤต! จ่อปิดกิจการเพิ่ม ยอดเข้าพักไม่ถึงครึ่ง รอมาตรการรัฐไม่ไหว
สมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ ยอมรับการท่องเที่ยวยังได้รับผลกระทบอย่างหนัก กังวลรัฐบาลทำงานล่าช้า โดยเฉพาะมาตรการ "วัคซีนพาสปอร์ต" ยังไม่ชัดเจน อาจชวดโอกาสทองฤดูท่องเที่ยว หวั่นโรงแรมต้องปิดกิจการเพิ่มอีก รวมถึงจะมีแรงงานตกงานอีกจำนวนมาก ขณะที่วันนี้จะมีการเคาะโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 เพิ่มอีก 2 ล้านสิทธิ์ และขยายระยะเวลาถึงเดือนกรกฎาคมนี้
ตั้งกองทุนท่องเที่ยว เก็บเงินต่างชาติเข้าไทย 300 บาท
โควิดรอบใหม่ ฉุดการค้า-ท่องเที่ยวไทย วูบ 1.4 แสนล้านบาท กทม.กระทบเยอะสุด
นางละเอียด บุ้งศรีทอง นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ (ตอนบน) เปิดเผนว่า ทางภาคเอกชนขอให้รัฐบาลเร่งทำมาตรการ "วัคซีนพาสปอร์ต" จับคู่ประเทศที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว เพื่อทำควบคู่ไปกับการฉีดวัคซีนในประเทศ หากรัฐบาลดำเนินการล่าช้าไปมากกว่านี้ จะทำให้ไม่ทันกับฤดูท่องเที่ยวของปีนี้ เนื่องจากการฉีดวัคซีนป้องกันต้องใช้ระยะเวลา และเพื่อให้ผู้ประกอบการได้เตรียมความพร้อมล่วงหน้า อย่างปัจจุบันโรงแรมในเชียงใหม่ มีจำนวนห้องพักทั้งหมดกว่า 60,000 ห้อง จากผู้ประกอบการ 2,000 - 3,000 แห่ง ตอนนี้ยังเปิดให้บริการไม่ถึงครึ่ง เพียง 20,000-30,000 ห้องเท่านั้น ส่งผลให้การจ้างงานที่ก็ลดลงเหลือเพียง 30% ดังนั้นสถานการณ์ของโรงแรม ยังถือว่ายังวิกฤต ทั้งนี้ ภาคเอกชน ได้ขอให้รัฐบาล เร่งผ่อนปรนเงื่อนการเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เนื่องจากตอนนี้มีผู้ประกอบการและโรงแรมในพื้นที่จำนวนมากอาจต้องปิดกิจการ
ด้านสมาคมมัคคุเทศก์ไทย นำตัวแทน มัคคุเทศก์ยื่นหนังสือร้องความเป็นธรรม เรื่อง กรมการท่องเที่ยว ไม่ประกาศการเปลี่ยนประเภทบัตรอนุญาตมัคคุเทศก์และไม่จัดอบรมเพิ่มเติมให้มัคคุเทศก์ทราบอย่างทั่วถึง ทำให้ผู้ที่ประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ บัตรสีทอง (ทัวร์ไทย) และบัตรสีชมพู (ทัวร์เฉพาะท้องที่) ไม่สามารถต่อบัตรอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ได้ และหมดสิทธิถือบัตรมัคคุเทศก์
ขณะที่นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า วันนี้ (5 มี.ค.) ที่ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ฯ จะพิจารณาการขยายโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3" เพิ่มสิทธิ์จองห้องพักอีก 2 ล้านห้องใหม่ พร้อมขยายระยะเวลาการใช้สิทธิ์ห้องพักไปจนถึงเดือน ก.ค.2564 และเพิ่มมาตรการป้องกันการทุจริตด้วย นอกจากนี้ จะหารือเรื่องปรับโครงการ "เที่ยวไทยวัยเก๋า" เปลี่ยนใหม่เป็น "ทัวร์เที่ยวไทย"ให้อายุ 18 ปีขึ้นไปเที่ยวผ่านบริษัททัวร์ หากผ่านการพิจารณาของ สศช. จะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้า
ด้านนายทิพากร จันทร์แถม นายกสมาคมมัคคุเทศก์ไทย เปิดเผยว่า ตามที่พระราชบัตรธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ฉบับประจำปี พ.ศ 2559 กำหนดยกเลิกบัตรอนุญาตมัคคุเทศก์สีทอง หรือนำทัวร์นักท่องเที่ยวไทย และยกเลิกบัตรประเภทเฉพาะ ไปรวมเป็นบัตรอนุญาตมัคคุเทศก์สีบรอนซ์เงิน ซึ่งเป็นบัตรนำทัวร์นักท่องเที่ยวต่างชาติ และบัตรภูมิภาคแทน ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นนานถึง 1ปี โดยกรมการท่องเที่ยวที่เป็นหน่วยงานรับผิดชอบจัดอบรมมัคคุเทศก์ ไม่แจ้งหนังสือให้มัคคุเทศก์บัตรสีทองและบัตรเฉพาะทราบโดยตรง เพียงแค่ปิดประกาศไว้ที่หน้าสำนักงานของกรมฯ และบนเว็บไซต์ โดยเป็นผู้กำหนดเวลาการอบรมเองแบบกะทันหัน ทำให้มัคคุเทศก์จำนวนมากกว่า 10,000 คนไม่รู้ข่าวสาร ไม่สะดวกตามเวลาที่กรมฯกำหนด และพลาดการอบรมจนทำให้บัตรอนุญาตที่ใช้ประกอบอาชีพถูกยกเลิกไปโดยปริยาย
ทั้งนี้หากมัคคุเทศก์บัตรสีทองที่ในปัจจุบันมีอยู่ 800 ราย และบัตรเฉพาะที่ถูกตัดสิทธิ จะต้องทำการอบรมใหม่ โดยเสียค่าอบรมเป็นมัคคุเทศก์ใหม่ใน ราคาสูงถึง 45,000บาท ต่อคน ทำให้มัคคุเทศก์ที่ได้รับผลกระทบจากการหยุดประกอบอาชีพเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยาวนานมากว่า1ปีเศษ ไม่มีรายได้มากพอที่จะจ่ายค่าอบรมครั้งใหม่