เศรษฐกิจไทย เม.ย.65 คนยังกังวลของแพงจากสงคราม ภาคก่อสร้างยังหดตัว
เศรษฐกิจไทยในเดือนเมษายน 2565 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ภาคก่อสร้างยังหดตัว ติดตามความขัดแย้งระหว่างประเทศรัสเซียและยูเครน ส่งผลให้ราคาสินค้าแพงขึ้น กระทบค่าครองชีพ
เศรษฐกิจไทยเดือน เม.ย. 65 ยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการส่งออก ภาคการท่องเที่ยว และภาคเกษตร แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศรัสเซียและยูเครนที่ส่งผลต่อระดับราคาพลังงาน ต้นทุนการผลิต และค่าครองชีพอย่างใกล้ชิด”
ไทยส่งออกโต 9.9% ขณะที่ราคาพลังงาน ปุ๋ยโลก ทำไทยขาดดุลการค้าสูง
อีกนานแค่ไหน? ราคาน้ำมันจะลง เมื่อการเมืองโลกส่งผลตลาดน้ำมันเปลี่ยนโฉม
สำหรับเครื่องชี้วัดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เดือน เม.ย. 2565
บริโภคภาคเอกชน มีสัญญาณดีขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า
โดยการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ ในเดือนเมษายน 2565 ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 1.6 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลร้อยละ 0.9
บริโภคสินค้าคงทน สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่ง เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 20.6 แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลร้อยละ -9.2 ปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -7.6 แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 6.4
รายได้เกษตรกรที่แท้จริง ในเดือนเมษายน 2565 ขยายตัวเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ร้อยละ 8.0
อย่างไรก็ดี ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนเมษายน 2565 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 40.7 เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 และผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่ทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสินค้าและระดับราคาสินค้าทั่วไปปรับตัวสูงขึ้น
การลงทุนภาคเอกชน มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า โดยการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณการนำเข้าสินค้าทุน ในเดือนเมษายน 2565 ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 6.3 ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 4.4 แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -6.0
อย่างไรก็ตาม ลงทุนในหมวดการก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศในเดือนเมษายน 2565 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -7.4 และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -1.4 ขณะที่ภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -6.5 แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 7.3
มูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า มูลค่าการส่งออกสินค้ารวมในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนเมษายน 2565 อยู่ที่ 23,521.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันที่ร้อยละ 9.9 ซึ่งเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14
คาดเงินบาทสัปดาห์นี้แนวโน้มอ่อนค่า ซื้อขายในกรอบ 33.80-34.50
สำหรับ ด้านอุปทาน มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยภาคเกษตร ท่องเที่ยวทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวไทยขยายตัว
แต่ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนเมษายน 2565 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 86.2 จากระดับ 89.2 ในเดือนมีนาคม 2565 เนื่องจากผู้ประกอบการมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ทำให้ราคาพลังงาน ต้นทุนการผลิตทั้งจากราคาวัตถุดิบและค่าขนส่งปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงกำลังซื้อในประเทศชะลอตัวจากปัญหาเงินเฟ้อ ส่งผลให้ประชาชนระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี แม้มีปัจจัยกดดันจากการเพิ่มขึ้นของระดับราคาสินค้า สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนเมษายน 2565 อยู่ที่ร้อยละ 4.65 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 2.00 ส่วนสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565 อยู่ที่ร้อยละ 60.6 ต่อ GDP
มีผลพรุ่งนี้! กบน.สั่งปรับขึ้น 'ดีเซล 1 บาท' กองทุนฯ ติดลบอ่วม 8.1 หมื่นล้าน