ลมหายใจธุรกิจร้านอาหาร ปี 65 "ยังไปได้แต่รายเล็กอาจเจอซ้ำ "เงินเฟ้อดันต้นทุนสินค้าพุ่ง"
แนวโน้มธุรกิจร้านอาหารปี 2565 เมื่อเทียบกับ 2 ปีที่เผชิญโควิด-19 พลิกฟื้นเติบโตราว 5.4% ขณะเดียวกันพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปหันใช้เดลิเวอรีเพิ่มขึ้น ซ้ำราคาสินค้าสูงขึ้นรายย่อยอาจยังกระทบหนัก
ธุรกิจร้านอาหาร เป็นภาคธุรกิจหนึ่งที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ในช่วง 2 ปี เริ่มตั้งแต่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปี 2563 ที่มีมาตรการล็อกดาวน์ การปิดห้างสรรพสินค้า และร้านอาหารชั่วคราว โดยไม่อนุญาตให้รับประทานอาหารในร้าน แม้ในปี 2564 มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดเริ่มผ่อนคลายลง แต่ด้วยตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังไม่ฟื้นตัวกลับมา และความกังวลภาคประชาชนจากการรับประทานอาหารในพื้นที่สาธารณะ ส่งผลให้รายได้ธุรกิจร้านอาหารหดตัว
ลุยตรวจ “อาบอบนวด -สถานบันเทิง” พบลูกค้าใช้บริการคึกคัก
“พลังงาน”เตรียมถกโรงกลั่น หลังค่ากลั่นน้ำมันพุ่งเป็น 5 บาท/ลิตร
ย้อนดูในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
- ปี 2563 หดตัว 11.5%
- ปี 2564 หดตัว 4.7%
สลากดิจิทัลวันแรกยอดขาย 2.4 ล้านใบ! ถ้าถูกรับเงินผ่านแอปฯเป๋าตังภายใน 12 ชั่วโมง
แต่ในปีนี้ ( 2565) ธุรกิจร้านอาหาร มีสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้น โดยประมาณการว่าจะฟื้นตัวที่ 5.4% ด้วยมูลค่า 3.85 แสนล้านบาท แต่เป็นการเติบโตในบริบทที่ต่างกันตามขนาดธุรกิจ โดยดูจากแนวโน้มจากการปรับตัวของภาคประชาชนกลับมาดำเนินชีวิตใกล้เคียงปกติ
แต่ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาใช้แพลตฟอร์มเดลิเวอรีเพื่อสั่งอาหารออนไลน์เพิ่มขึ้น อีกทั้งราคาสินค้าที่สูงขึ้นกดดันกำลังซื้อผู้บริโภคให้ลดลงในวงกว้าง กระทบหนักในกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย เนื่องจากศักยภาพในการแข่งขันที่น้อยกว่าและปัญหาต้นทุนสูงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ttb analytics คาดการณ์ว่า ธุรกิจร้านอาหารในปี 2565 มีสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้น โดยประมาณการว่าจะฟื้นตัวที่ 5.4% ด้วยมูลค่า 3.85 แสนล้านบาท
แพลตฟอร์มเดลิเวอรีเข้ามาเป็นข้อต่อสำคัญที่ช่วยให้กิจกรรมร้านอาหารยังสามารถไปต่อได้ท่ามกลางวิกฤต และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคของผู้คนให้ต่างไปจากเดิม ส่งผลต่อการฟื้นตัวของธุรกิจร้านอาหารที่มีรูปแบบที่ต่างกันไป : ttb analytics ระบุ
กลุ่มผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในการทำตลาดผ่านแพลตฟอร์ม เดลิเวอรีจะมีการฟื้นตัวที่ดีและสามารถขยายฐานลูกค้าได้เพิ่มขึ้น ดังนั้น การบริโภคผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าวจึงกลายเป็นพฤติกรรมปกติของผู้คนในปัจจุบัน
เพราะฉะนั้นใน ปี 2565 นี้ จำนวนผู้ใช้บริการจึงไม่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัย ดังนั้น ทิศทางการเติบโตจึงขึ้นอยู่กับความสามารถในการบริหารจัดการด้านการตลาดให้ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการมากที่สุด ท่ามกลางภาวะต้นทุนและค่าครองชีพที่ปรับตัวสูง
โดย ttb analytics จึงประเมินการฟื้นตัวของธุรกิจร้านอาหารตามขนาดกิจการ คือ
กลุ่มผู้ประกอบการขนาดใหญ่ ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ชัดเจนในช่วงปี 2563 ภาพรวมปรับลดลง 28.1% เนื่องจากพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าจะรับประทานอาหารร่วมกัน แบบครอบครัว เพื่อน การจัดส่งอาหารผ่านเดลิเวอรี ไม่ตอบโจทย์การบริการของผู้ประกอบการขนาดใหญ่ ทำให้ในปี 2564 กลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารขนาดใหญ่ยังไม่ฟื้นตัว รายได้คาดการณ์หดตัวต่อเนื่องที่ 5.0%
ปี 2565 ความกังวลของประชาชนที่คลายตัวหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย รวมถึงการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้มีกำลังซื้อกลับเข้ามาหนุนให้กลุ่มธุรกิจร้านอาหารขนาดใหญ่ให้พลิกฟื้น 12.0% ด้วยมูลค่า 1.35 แสนล้านบาท
กลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ได้รับผลกระทบในบางช่วงของปี 2563 ที่มีการล็อกดาวน์ภาพรวมรายได้ปรับลดลง 24.7% แต่บริการจัดส่งอาหารเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการปรับเมนูหารให้มีราคาและปริมาณที่เหมาะสมกับบริการจัดส่งเป็นการ ขยายศักยภาพพื้นที่บริการผ่านแพลตฟอร์มเดลิเวอรี ปี 2564 รายได้ของกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมเพิ่มขึ้นที่ 20.0% ด้วยมูลค่า 8.96 หมื่นล้านบาท
ปี 2565 บนข้อจำกัดของจำนวนการใช้บริการแพลตฟอร์มเดลิเวอรีเริ่มเข้าสู่จุดอิ่มตัว กิจกรรมเศรษฐกิจที่กลับสู่ภาวะปกติมากขึ้น แต่คาดว่ายังฟื้นตัวต่อเนื่องที่รายได้ 9.24 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นราว 3.2%
กลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย ในปี 2563 ได้รับผลบวกจากการห้ามรับประทานอาหารที่ร้าน มาตรการล็อกดาวน์ และการจำกัดการเดินทาง ส่งผลให้ภาพรวมรายได้เพิ่มขึ้น 15.3% แต่ก็เสียเปรียบผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมเริ่มปรับกลยุทธ์การจัดส่งอาหารทั้งรูปแบบและราคา ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยที่เคยได้เปรียบจากทำเลที่ตั้งเริ่มลดบทบาทลงและเริ่มสูญเสียฐานลูกค้าให้กับกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมผ่านแพลตฟอร์มเดลิเวอรี ทำให้ปี 2564 ภาพรวมของผู้ประกอบการรายย่อยจึงปรับลดลง 14.6% เหลือ 1.56 แสนล้านบาท
ปี 2565 แม้มาตรการควบคุมสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่คลายตัว และวิถีชีวิตของภาคประชาชนที่กลับเข้าใกล้สู่ภาวะปกติ แต่ศักยภาพการแข่งขันที่ต่ำกว่ากลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมในแพลตฟอร์มเดลิเวอรีที่จะช่วยขยายพื้นที่การให้บริการมีความทับซ้อนกันเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก รวมถึงมาตรการคนละครึ่งที่เม็ดเงินส่วนใหญ่เข้าสู่รายย่อยในปีนี้คาดว่าเม็ดเงินช่วยเหลือรวมจะลดลง ส่งผลให้รายได้ของผู้ประกอบการรายย่อยขยายตัวในกรอบแคบ ที่ 1.5% หรือ 1.58 แสนล้านบาท
นอกจากนั้นแล้ว ปัจจัยท้าทายที่กระทบต่อการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อยมากกว่าผู้ประกอบการขนาดอื่น ๆ คือ
1.ปัญหาเงินเฟ้อที่สูงขึ้นรวดเร็วลดทอนกำลังซื้อภาคประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มคนรายได้น้อยที่เป็นตลาดหลักของผู้ประกอบการรายย่อย อาจประกอบอาหารเองเพื่อลดค่าใช้จ่าย
2.ภาวะต้นทุนที่ปรับเพิ่มสูงต่อเนื่อง เนื่องจากมีฐานรายได้และสัดส่วนกำไรที่ต่ำกว่ากลุ่มผู้ประกอบการกลุ่มอื่นมาก
3. ภาวะการแข่งขันสูงในธุรกิจ ประเภทอาหารที่มีลักษณะทั่วไปไม่มีจุดขายอาจปรับราคาได้ยากกว่า
แนะนำว่า ผู้ประกอบการอาหารรายย่อยควรเร่งพัฒนาเมนูอาหารให้มีความแตกต่างและมีเอกลักษณ์เฉพาะ เพื่อสร้างคุณค่าและจุดขายอันเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มพื้นที่สร้างกำไรและความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงเพิ่มความหลากหลายของอาหาร และช่องทางการให้บริการเพื่อเพิ่มยอดขาย เหล่านี้จะสามารถตอบโจทย์พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปและรักษาพื้นที่ตลาดที่มีการแข่งขันเพิ่มสูงขึ้นจากผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมที่รุกคืบผ่านแพลตฟอร์มเดลิเวอรีได้เพิ่มมากขึ้น
ที่มา : ttb analytics