ปี 65 "ก่อสร้างเผชิญความท้าทาย"ต้นทุนสูง ทั้ง เหล็ก ปูนซีเมนต์ ค่าแรง
ภาพรวมมูลค่าอุตสาหกรรมก่อสร้างในปี 2022 ยังคงเผชิญกับสถานการณ์ราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นทั้งต้นทุนแรงงาน และวัสดุก่อสร้าง ขณะที่ภาพรวมมูลค่าอุตสาหกรรมก่อสร้างในปี 2022 ยังคงมีการขยายตัวที่ 4% แตะระดับ 1.42 ล้านล้านบาท
ภาพรวมมูลค่าอุตสาหกรรมก่อสร้างในปี 2022 ยังคงเผชิญกับสถานการณ์ราคาที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยผู้ประกอบการก่อสร้างเผชิญความท้าทายจากต้นทุนก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้น ทั้งต้นทุนแรงงาน และวัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เหล็ก และปูนซีเมนต์
ต้นทุนวัสดุก่อสร้างขึ้น! ส่งสัญญาณราคาบ้านขึ้นตาม
ราคาพลังงาน-อาหาร ดันเงินเฟ้อ พ.ค.พุ่ง 7.1% สูงสุดในรอบ 13 ปี
สำหรับปริมาณการใช้วัสดุก่อสร้างในปี 2022 มีแนวโน้มเติบโต ท่ามกลางความท้าทายด้านราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นไปตามต้นทุนพลังงานที่ปรับตัวพุ่งสูงขึ้น
เหล็ก ปริมาณการบริโภคเหล็กทรงยาว และทรงแบนในปี 2022 มีแนวโน้มอยู่ที่ 6.6 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 3% และ 12.9 ล้านตัน เพิ่มขึ้น +5% ตามลำดับ โดยมีปัจจัยหนุนจากการขยายตัวของภาคก่อสร้าง การผลิตรถยนต์ และการผลิตสินค้าอื่น ๆ ที่มีการใช้เหล็กเป็นส่วนประกอบ ขณะที่ราคาเหล็กทรงยาว และทรงแบนไทยปี 2022 มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 30.2 บาท/กิโลกรัม เพิ่มขึ้น 19% และ 36.3 บาท/กิโลกรัม เพิ่มขึ้น 15%
ปูนซีเมนต์ ปริมาณการบริโภคปูนซีเมนต์ในประเทศในปี 2022 มีแนวโน้มเติบโต 2% มาอยู่ในระดับ 35.1 ล้านตัน โดยมีปัจจัยหนุนจากการขยายตัวจากการก่อสร้างภาครัฐ ขณะที่การก่อสร้างภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวเล็กน้อย รวมทั้งปริมาณการส่งออกปูนซีเมนต์และปูนเม็ดฟื้นตัว 5% แตะระดับ 12.4 ล้านตัน ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลัก สำหรับราคาปูนซีเมนต์ในปี 2022 มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น 8% มาอยู่ที่ 1,753 บาท/ตัน
กระเบื้อง ปริมาณการบริโภคกระเบื้องปูพื้นบุผนังในไทยในปี 2022 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1% มาอยู่ที่ 227 ล้านตารางเมตร โดยได้อานิสงส์ทั้งจากการก่อสร้างภาคเอกชนที่มีแนวโน้มขยายตัวเล็กน้อย ตามการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัย และอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ รวมทั้งงานซ่อมแซมอาคาร และที่อยู่อาศัย ขณะที่การนำเข้ากระเบื้องอาจชะลอตัวจากค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง และค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นตามราคาพลังงาน สะท้อนโอกาสของผู้ผลิตกระเบื้องในประเทศ ที่จะมีการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น
สีทาอาคาร มูลค่าตลาดสีทาอาคารในปี 2022 มีแนวโน้มขยายตัวเล็กน้อย 2% อยู่ที่ระดับ 19,000 ล้านบาท โดยได้อานิสงส์ทั้งจากการก่อสร้างภาคเอกชนที่มีแนวโน้มขยายตัวเล็กน้อย รวมทั้งงานซ่อมแซมอาคาร และที่อยู่อาศัย โดยราคาพลังงานที่ปรับตัวพุ่งสูงขึ้นทำให้ผู้ผลิตยังต้องเผชิญกับราคาวัตถุดิบจำพวกสารสีมีราคาสูงขึ้น ส่งผลกระทบให้อัตรากำไรของผู้ประกอบการมีแนวโน้มลดลง
ปัจจัยหนุนที่ทำให้ภาพรวมมูลค่าอุตสาหกรรมก่อสร้างในปี 2022 ขยายตัวที่ 4%
มูลค่าการก่อสร้างภาครัฐ ยังสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องที่ 6% แตะระดับ 853,000 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหนุนจากทั้งความคืบหน้าของโครงการเมกะโปรเจกต์ที่มีการก่อสร้างต่อเนื่องจากในอดีต เช่น รถไฟฟ้าสีส้มตะวันออก, สีชมพู, สีเหลือง, รถไฟทางคู่ เฟส 1, มอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรี, ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รันเวย์ที่ 3, ทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง สัญญา 1 และ 3 รวมถึงการเริ่มก่อสร้างโครงการเมกะโปรเจกต์ใหม่ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถไฟฟ้าสีม่วงใต้, สีส้มตะวันตก รถไฟทางคู่สายเหนือ และสายอีสาน รวมถึงมอเตอร์เวย์/ทางด่วนต่าง ๆ
มูลค่าการก่อสร้างภาคเอกชน มีแนวโน้มขยายตัวเล็กน้อยที่ 1% มาอยู่ที่ 567,000 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของมูลค่าการก่อสร้างที่อยู่อาศัยแนวราบ ตามการฟื้นตัวของหน่วยที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ ในส่วนของมูลค่าการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ในกลุ่มอาคารสำนักงานมีแนวโน้มหดตัวเล็กน้อย ขณะที่พื้นที่ค้าปลีกมีแนวโน้มขยายตัวไปตามการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ ที่ยังมีการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง
เพราะฉะนั้น EIC มองว่า ผู้ประกอบการก่อสร้าง และวัสดุก่อสร้างอาจปรับกลยุทธ์รับมือต้นทุนที่ปรับตัวพุ่งสูงขึ้น ดังนี้
ผู้ประกอบการก่อสร้าง ทำสัญญาสั่งซื้อวัสดุก่อสร้างล่วงหน้าอย่างสอดคล้องกับความต้องการใช้ หลีกเลี่ยงการเข้าประมูลแบบแข่งขันด้านราคา เพื่อลดโอกาสในการขาดทุนในภาวะที่ต้นทุนก่อสร้างพุ่งสูงขึ้น รวมถึงนำเทคโนโลยีก่อสร้างมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการก่อสร้าง และลดต้นทุน ทั้งต้นทุนวัสดุก่อสร้าง และแรงงาน
ผู้ประกอบการวัสดุก่อสร้าง บริหารจัดการการผลิต และสต็อกอย่างสอดคล้องกับปริมาณคำสั่งซื้อ ผลิตสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง และสอดคล้องกับความต้องการของตลาด รวมถึงขยายฐานลูกค้าผู้บริโภคกลุ่ม Gen Z ซึ่งเป็นผู้อยู่อาศัยกลุ่มใหม่และมีศักยภาพ จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนการบริโภคภาคเอกชน หมวดการซ่อมแซมและตกแต่งครัวเรือนได้