ส่งออกเดือนก.ค.โต 4.3% ขยายตัว 17 เดือนติด วิกฤติอาหารดันภาคเกษตรพุ่ง
ส่งออกเดือนก.ค.ขยายตัว 4.3% จากภาคเกษตร รับวิกฤติอาหารโลก เฉลี่ย 7 เดือน ขยายตัว 11.5% ขณะที่แนวโน้มตลาดส่งออกชะลอจากพิษเงินเฟ้อ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าการส่งออกของไทยในเดือนกรกฎาคม 2565 มีมูลค่า 23,629.3 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 829,029 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 4.3 ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 17
หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวร้อยละ 4.1 โดยยังคงขยายตัวจากการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรเป็นหลัก ซึ่งได้รับปัจจัยบวกจากราคาสินค้าเกษตรและอาหารที่สูงขึ้นตามปริมาณผลผลิตโลกที่ยังได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย
ส่งออกเดือน มิ.ย. 11.9% ขยายตัวต่อเนื่องเดือนที่ 16
ความมั่นคงอาหารไทย "ปริมาณการผลิตไม่น่าห่วง...แต่เสี่ยงราคาสูง"
มูลค่าการค้ารวม มูลค่าการค้าในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐเดือนกรกฎาคม 2565 การส่งออก มีมูลค่า 23,629.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 4.3 เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 27,289.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 23.9 ดุลการค้า ขาดดุล 3,660.5 ล้านเหรียญสหรัฐ
ขณะที่ภาพรวม 7 เดือนแรกของปี 2565 (มกราคม - กรกฎาคม) การส่งออก มีมูลค่า 172,814.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 11.5 การนำเข้า มีมูลค่า 182,730.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 21.4 ดุลการค้า ขาดดุล 9,916.3 ล้านเหรียญสหรัฐ
การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรยังขยายตัวเป็นหลัก ซึ่งได้รับปัจจัยบวกจากราคาสินค้าเกษตรและอาหารที่สูงขึ้นตามปริมาณผลผลิตโลกที่ยังได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย อาทิ การส่งออกธัญพืชได้อย่างจำกัดของยูเครนในช่วงเวลาก่อนหน้า มาตรการจำกัดการส่งออกของต่างประเทศ จึงทำให้ไทยได้รับประโยชน์ในฐานะเป็นแหล่งนำเข้าสำคัญ
ขณะที่การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวเพียงเล็กน้อย เนื่องจากภาคการผลิตที่เกี่ยวเนื่องกับเซมิคอนดักเตอร์เริ่มได้รับผลกระทบมากขึ้น และผลจากมาตรการล็อกดาวน์เมืองอุตสาหกรรมสำคัญของจีน ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการผลิตและการส่งมอบ
อย่างไรก็ดี ยังมีบางกลุ่มสินค้าที่การส่งออกขยายตัวดี โดยเฉพาะสินค้าที่ได้ประโยชน์จากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด อาทิ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว เครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น
สำหรับด้านตลาดส่งออกเริ่มเห็นสัญญาณเติบโตในอัตราชะลอตัว เนื่องจากคู่ค้ามีแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อที่สูง
แนวโน้มการส่งออกระยะถัดไป กระทรวงพาณิชย์ ประเมินว่า การส่งออกไทยจะยังเติบโตต่อเนื่องท่ามกลางปัจจัยเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยไทยมีการกระจายความเสี่ยงการส่งออกไปในหลายตลาดมากขึ้น
นอกจากนี้ สินค้าเกษตรและอาหารที่ไทยมีศักยภาพในการผลิตและส่งออก ยังมีความต้องการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ยังมีปัจจัยบวกจากเงินบาทอ่อนค่าที่สนับสนุนให้ผู้ส่งออกไทยมีความสามารถทางการแข่งขัน และมีรายได้ในรูปของเงินบาทเพิ่มขึ้น ค่าระวางเรือที่มีแนวโน้มลดลง การขนส่งสินค้าเริ่มมีสัญญาณที่ดีจากปริมาณตู้สินค้าที่เข้ามายังไทย และจำนวนเที่ยวเรือที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งราคาพลังงานโลกมีแนวโน้มลดลงล้วนส่งผลให้ต้นทุนของผู้ส่งออกลดลง
การส่งออกยังมีปัจจัยเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ และผลจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในประเทศคู่ค้า ซึ่งอาจทำให้กำลังซื้อและปริมาณสินเชื่อเพื่อการบริโภคชะลอตัว อีกทั้งความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ในอนาคตที่อาจกระทบต่อห่วงโซ่การผลิตของโลกและไทย ซึ่งจำเป็นต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
เตือนคนชอบเที่ยว อย่าลืมจอง "เราเที่ยวด้วยกัน" เฟส 4 เหลือ 1.85 แสนสิทธิเท่านั้น
เนต้า ออโต้ เตรียมแนะนำ 'NETA U' สู่ตลาดในไทยปี 2566