UTA จรดปากกาลงนาม กองทัพเรือ ในการใช้ประโยชน์ "สนามบินอู่ตะเภา"
โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก คืบหน้าต่อเนื่อง ล่าสุด UTA ผู้รับสัมปทาน จับมือลงนามกับกองทัพเรือ ในการใช้ประโยชน์ทางวิ่งรันเวย์ที่ 1 ของสนามบินอู่ตะเภา เพื่อเสริมศักยภาพการบินของประเทศ
ความคืบหน้าการพัฒนาโครงการสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยก้าวไปเป็นศูนย์กลางทางการบินและประตูเศรษฐกิจสู่เอเชีย ล่าสุด วันนี้ได้มีการจรดปากกาลงนามกันระหว่าง กองทัพเรือ กับบริษัท อู่ตะเภาอินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น หรือ UTA เพื่อบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการใช้ประโยชน์ "สนามบินอู่ตะเภา" ตามโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกร่วมกัน
วันหยุดเดือนตุลาคม 2565 เช็กปฎิทิน วันหยุดราชการ-วันหยุดธนาคาร-วันหยุดพิเศษ
อู่ตะเภา – เมืองการบินฯ พร้อมตอกเสาเข็มปีหน้า มั่นใจแข่งขันไม่แพ้ต่างชาติ
การลงนามครั้งนี้ มีผู้แทนจากทั้งสองฝ่าย จาก UTA ได้แก่ นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริหารฯ, นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ และนายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการบริหารบริษัท ด้านกองทัพเรือมี พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นผู้แทน ซึ่งการลงนามครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อกำหนดในสัญญาร่วมลงทุน เพื่อนำทางวิ่งที่ 1 (รันเวย์)ของสนามบินอู่ตะเภาที่อยู่ภายใต้การดูแลของกองทัพเรือ นำมาใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ เพื่อสนับสนุนการเดินทางการท่องเที่ยว เพิ่มขีดความสามารถของประเทศ
ด้านนายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริหาร UTA บอกว่า การจัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยยกระดับสนามบินอู่ตะเภาให้เป็นสนามบินนานาชาติเชิงพาณิชย์ และเพื่อสนับสนุนการให้บริการของโครงการฯ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยยกระดับความสามารถด้านการแข่งขันของอุตสาหกรรมการบินของประเทศไทย โดยเฉพาะการก้าวไปเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว Logistics & Aviation รวมถึงการเป็นศูนย์กลาง "มหานครการบินภาคตะวันออก"
สำหรับการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ที่จะก้าวมาเป็นสนาบินเชิงพาณิชย์แห่งที่ 3 ของกรุงเทพ โดยมีรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินเป็นจุดเชื่อมต่อ ตั้งแต่สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินอู่ตะเภา ซึ่งในตัวสนามบินอู่ตะเภาเองถูกออกแบบไว้ 2 ทางวิ่ง
ปัจจุบันทางวิ่งที่ 1 กองทัพเรือเป็นผู้มีสิทธิ์ใช้ประโยชน์ ส่วนทางวิ่งที่ 2 และทางขับที่เกี่ยวข้องรับมีหน้าที่ดำเนินการก่อสร้างเพื่อให้เอกชนร่วมลงทุนใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์และเอกชนมีหน้าที่พัฒนาสนามบินอู่ตะเภาให้มีศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารได้ปีละ 60 ล้านคน