ส่อง 3 ไฮไลท์ "เบอร์เกอร์คิง แฟลกชิปสโตร์" ใช้เทคโนโลยีรับยุคดิจิทัล
เบอร์เกอร์คิง แฟลกชิปสโตร์ สาขารัชดา เป็นสาขาที่ลงทุนที่เยอะที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ของเบอร์เกอร์คิง
PPTV Online พาทุกท่านไปรู้จักกับ "เบอร์เกอร์คิง แฟลกชิปสโตร์" สาขารัชดา ซึ่งมีพื้นที่กว่า 400 ตารางวา บนทำเลศักยภาพ ตั้งเป้าสู่การเป็น Restaurant as a Future ที่มาพร้อมการดีไซน์ตัวอาคารภายนอกที่เป็นเอกลักษณ์และมีกลิ่นอายของความเป็นอเมริกันสไตล์ ซึ่งเป็นดีไซน์ใหม่ล่าสุดของโลกโดยสาขาแรกอยู่ที่ ไมอามี่ สหรัฐอเมริกา และที่ประเทศไทยเป็นสาขาที่ 2
สาเหตุ “เบอร์เกอร์คิง” หยุดกิจการ 800 สาขาในรัสเซียไม่ได้
ปธ.ฟีฟ่า เล็งปรับให้ ฟุตบอลโลก แข่งทุก 3 ปี แต่หลังปี 2030
นอกจากนั้น ยังเป็นสาขาแรกในไทยที่นำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้สอดรับเทรนด์ยุคดิจิทัล ผ่านการรวม 3 นวัตกรรมไฮไลท์ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ ได้แก่
เตาย่างเปลวไฟรุ่นใหม่ สาขาแรกในเอเชีย ที่นำนวัตกรรมนี้มาใช้ เพื่อสร้างประสบการณ์ให้ผู้บริโภคสัมผัสถึงความพรีเมียมและเห็นกรรมวิธีในการย่างเนื้อด้วยเปลวไฟ ตอกย้ำซิกเนเจอร์ความเป็นต้นตำรับในแบบฉบับของเบอร์เกอร์คิง
ตู้รับสินค้าอัจฉริยะ (Smart Locker) ที่จะเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการรับสินค้าผ่านระบบอัตโนมัติ เพิ่มความรวดเร็ว ป้องกันความแออัดภายในร้าน และลดความเสี่ยงต่อการสัมผัส ซึ่งนวัตกรรมนี้สามารถรองรับกลุ่มไรเดอร์บริการรับ-ส่งอาหาร ที่เข้ามาใช้บริการเดลิเวอรีได้เป็นอย่างดี เพียงแค่กรอกหมายเลขออเดอร์รับสินค้าที่หน้าจอ สามารถหยิบสินค้าภายในตู้ที่ตรงกับหมายเลขรับบริการเพื่อนำไปส่งให้ถึงมือลูกค้าได้ทันที
จุดบริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) ที่สามารถรองรับรถยนต์ไฟฟ้าได้ทุกรุ่น และสามารถชาร์จได้รวดเร็วภายใน เวลา 15 นาที พร้อมกันนี้ยังได้ติดตั้ง Solar Rooftop เพื่อเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์มาเป็นพลังงานไฟฟ้า นอกจากช่วยประหยัดไฟฟ้าภายในร้านแล้ว ยังเป็นการใช้พลังงานหมุนเวียนได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด
นายธนวรรธ ดำเนินทอง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เล่าให้ฟังว่า เบอร์เกอร์คิง แฟลกชิปสโตร์ สาขารัชดา แห่งนี้มีการวางแผนการก่อสร้างมาเป็นเวลากว่า 1 ปี ด้วยการลงทุนของ เบอร์เกอร์คิง ทั้งหมด โดยคาดว่าการเปิดตัวแฟลกชิปสโตร์แห่งใหม่ครั้งนี้ จะสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้บริโภค และจะทยอยปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ของสาขาทั้ง 123 แห่งภายในปี 2573
สาขาดังกล่าวเป็นการลงทุนที่เยอะที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ของเบอร์เกอร์คิง โดยในปี 2566 คาดว่ายอดขายของบริษัทในภาพรวมจะเติบโตราว 20% จากปี 2565
ทั้งนี้ เบอร์เกอร์คิง มีความมุ่งมั่นที่จะสร้าง Customer engagement เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีประสบการณ์ร่วม ด้วยการให้ความสำคัญในทุกรายละเอียดตั้งแต่การออกแบบตัวอาคารภายนอก พร้อมพื้นที่จอดรถรองรับได้ 20 คัน
ขณะที่ การตกแต่งภายในร้านเป็นคอนเซ็ปต์ใหม่ทั้งหมด สามารถรองรับผู้บริโภคที่เข้ามาใช้บริการอยู่ที่ 60 ที่นั่ง บริเวณโดยรอบร้านถูกปรับภูมิทัศน์ให้มีพื้นที่สีเขียว และแบ่งโซนด้านหลังร้านในการรังสรรค์งานศิลปะด้วยภาพกราฟิกที่บ่งบอกถึงความเป็นเอกลักษณ์ของเบอร์เกอร์คิงสำหรับเป็นมุมถ่ายภาพหรือมุมนั่งเล่น ถือเป็นอีกเดสติเนชั่น ที่สร้างความแตกต่างในการมอบประสบการณ์ช่วงเวลาที่ดีให้แก่ผู้บริโภค และเป็นกลยุทธ์ที่จะดึงดูดผู้บริโภคให้มานั่งรับประทานอาหารภายในร้านกันมากขึ้น
นอกจากนั้น แบรนด์ยังให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายของผู้บริโภคในช่องทางการบริการที่รวดเร็วในรูปแบบ ไดร์ฟทรู ด้วยการให้ลูกค้าสามารถสั่งอาหารผ่านการพูดคุยและเห็นหน้าของพนักงานแบบเรียลไทม์บนจอแอลอีดีรูปแบบใหม่ที่พิเศษกว่าสาขาอื่น ๆ