ถอดสูตร มาพร้อมกับการวิเคราะห์ Perfect Storm

ท็อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้ง และซีอีโอบิทคับ หลังร่วมเวที World Ecomnomic Forum 2022 ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจที่นำมาบอกต่อกันคือ การกำหนดและมองทิศทางเศรษฐกิจโลกนับจากนี้ ซึ่งแบ่งเป็น 2 ระยะคือ ระยะสั้น กับระยะยาว ซึ่งในระยะสั้น Perfect Storm คือ โลกกำหลังเผชิญกับ สงครามรัสเซีย-ยูเครน เงินเฟ้อ สังคมผู้สูงอายุ เทคโนโลยีที่ถูกดิสรัปชัน ห่วงโซ่การผลิตที่ถูกดิสรัปชัน ไปจนถึงวิกฤตทางด้านอาหาร

Perfect Storm กำลังมา! เศรษฐกิจถดถอย ส่อลากยาวถึงปีหน้า

เจาะเบื้องหลังความสำเร็จของ "เจ มาร์ท" จากมุมมองทายาทธุรกิจ

นอกจากนี้ยังมีการทำ QE อัดเงินดอลลาร์เข้าระบบกดดันให้เกิดเงินเฟ้อไปทั่วโลก สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือผู้นำทั่วโลกจับมือกันขึ้นดอกเบี้ยที่เพื่อกดเงินเฟ้อให้ลงมาให้ได้ ซึ่งบนเวที World Ecomnomic Forum 2022 ตกลงกันแล้วว่า จะทำทุกอย่างเพื่อให้เงินเฟ้อลงมาที่ 2% ให้ได้ ภายใน 2024 เป็น The inflation roadmap 

เพราะฉะนั้นจึงพูดได้ว่าปีหน้า (2023) จะเป็นปีที่ต้องรับมือกับความผันผวนของเศรษฐกิจอย่างรุนแรง โดยเฉพาะเมื่อหลายประเทศรวมถึงสหรัฐกำลังเจอกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย 

เก็บเงินสด ลดใช้จ่ายไม่จำเป็น อย่าก่อหนี้ 

เพราะฉะนั้นสิ่งที่ ท็อป จิรายุส แนะนำเพื่อรับมือ Perfect Storm  หรือ พายุทางเศรษฐกิจ มี 3 อย่างคือ เก็บเงินสด ลดใช้จ่ายไม่จำเป็น และอย่าก่อหนี้ ทั้งในระดับบุคคลและระดับบริษัทที่ต้องรักษาสภาพคล่องและกระแสเงินสดไว้

และสิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับประเทศไทย คือ หนี้ครัวเรือน ซึ่งสูงมาก ถ้าระเบิดเมื่อไหร่ เศรษฐกิจจะถดถอยไปอีก 10 ปี

ส่วนในระยะยาว คือ การเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์สินค้าในแต่ละอุตสาหกรรม และการลงทุนในเทคโนโลยีเพื่อยมี output มากขึ้น และลงทุนใน Human Capital คือการพัฒนาตัวเอง

ไปจนถึงการลงทุใน BCG หรือ เศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy)  เป็นเรื่องของความยั่งยืน การและการบริหารบริษัทแบบยั่งยืน เพราะหลังปี 2022 เป็นต้นไป จะไม่มีนักลงทุนไหนลงทุนในบริษัที่ขาดทุน แต่จะลงทุนในบริษัทที่กำไรเท่านั้น 

ฟังแบบนี้แล้ว ปี 2023 อาจยังไม่ใช่ปีที่สดในนักสำหรับเศรษฐกิจโดยภาพรวม แต่ถ้าเราต้องรับทันจากเจ็บหนักก็อาจจะเบาลง