เศรษฐกิจ “ถดถอย” เวิลด์แบงก์ หั่นเป้า GDP โลก โตเหลือ 1.7% ต่ำสุดรอบ 30 ปี
ธนาคารโลก ปรับลดคาดการณ์ GDP โลก โตเหลือ +1.7% ต่ำสุดในรอบ 30 ปี ผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยแรง สงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อ ขณะเดียวกันคาดการณ์ GDP ไทย เติบโตเพิ่มเป็น +3.6% ได้อานิสงส์ท่องเที่ยวฟื้น
เศรษฐกิจ ปี 2566 จะเป็นปีที่ยากลำบาก เมื่อมหาอำนาจล้วนอ่อนแอ
นักท่องเที่ยวจีนเริ่มทยอยเข้าไทย คาดฟื้นตัวจริงครึ่งปีหลัง
ธนาคารโลก (World Bank) ปรับลดคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจโลก (GDP) ในปี 2566 ขยายตัว +1.7% จากปีก่อนหน้า ปรับลดจาก 3% ที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดือน มิ.ย. 65 ซึ่งถือว่าเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปี เนื่องจากเป็นผลกระทบจากการที่เหล่าธนาคารกลางปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเข้มข้นมากขึ้น สถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ยังคงยืดเยื้อเกือบ 1 ปี และการชะลอตัวของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลก
ทั้งนี้ในรายงานของ ธนาคารโลก ยังบ่งชี้ว่า จากสภาพเศรษฐกิจที่เปราะบางในช่วงนี้ เกิดจากอัตราเงิอเฟ้อที่สูงกว่าคาด ทำให้ธนาคารการต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างกะทันหัน การระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกระลอก และความตึงเครียดทางการเมืองที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น สิ่งเหล่านี้ล้วนผลักดันให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยมากขึ้น
โดยเฉพาะประเทศเกิดใหม่ และประเทศพัฒนาแล้ว (ไม่รวมจีน) นับเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก เนื่องจากต้องต่อสู้กับภาระหนี้สินจำนวนมหาศาล ค่าเงินอ่อนค่า การเติบโตของรายได้ชะลอตัว และการลงทุนธุรกิจชะลอตัว ทำให้คาดว่าปี 2566 จะเติบโตเหลือ 2.7% ลดลงจาก 3.8% ในปี 2565
ด้านฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ (APSP) เผยผ่านบทวิเคราะห์ว่า ประเด็นดังกล่าวมีผลกระทบต่อความต้องการลดลง รวมถึงเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาเร็วภายในไม่ถึง 3 เดือน ซึ่งจะกระทบภาคการส่งออกของไทย โดยภาคเอกชนต่างคาดการณ์ว่าการส่งออกไทยจะสะดุดไปถึงเดือน ม.ค.
สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ได้คาดการณ์ภาวะการส่งออกไทยตั้งปี 66 ขยายตัวเพียง 1-3% เป็นผลมาจากค่าเงินบาทแข็งค่าเร็วเกินไป ขณะที่ มหาวิทยาลัยหอการค้า คาดการณ์ว่าการส่งออกไทยจะเติบโตเพียง 1% ต่ำสุดในรอบ 3 ปี หรืออาจะติดลบไป 0.5 ถึง 1.5%
ขณะที่เศรษฐกิจปี 66 ของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาแม้จะได้รับผลกระทบ แต่ก็ยังมีแนวโน้มขยายได้ดีกว่ากลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและภาพรวมเศรษฐกิจโลก โดยธนาคารโลกคาดการณ์จีน เติบโต +4.3%จากปีก่อนหน้า ไทยเติบโต +3.6% จากปีก่อนหน้าเป็น ผลมาจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวและภาคลงทุนที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม จากการที่ ธนาคารโลก ปรับลด GDP โลกลง เนื่องจากหลายปัจจัยรุมเร้า รวมถึงบาทที่แข็งค่าอย่างรวดเร็ว อาจส่งผลให้ส่งออกไทยชะลอตัว กด Upside การเติบโตเศรษฐกิจ หากไม่มีปัจจัยใหม่หนุนยากจะดันดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) ให้ทะยานผ่าน 1,700 จุด