ราคาน้ำมันดิบฟื้นเล็กน้อย ท่ามกลางวิกฤตธนาคาร จับตาประชุมโอเปก 3 เม.ย.
ราคามันดิบวันนี้ปรับสูงขึ้นเล็กน้อยเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ท่ามกลางวิกฤตธนาคารในสหรัฐและยุโรป ที่อาจกระทบความต้องการใช้น้ำมัน ทั้งนี้เตรียมจับตา โอเปกพลัส ประชุม 3 เม.ย. ตลาดคาดคงนโยบายลดกำลังผลิด 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตลอดทั้งปี 66
สถานการณ์น้ำมันดิบตลาดโลก ราคายังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปรับขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านราว 4% สูงสุดในรอบ 10 วันทำการ
ขณะที่วันนี้ (28 มี.ค. 66) สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ปรับเพิ่มขึ้น 0.22 ดอลลาร์ หรือ +0.21% อยู่ในระดับ 77.97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเวสต์เท็สซัส (WTI) ปรับขึ้น 0.39 ดอลลาร์ หรือ +0.54% ล่าสุดอยู่ในระดับ 73.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ทีมวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดซื้อขายล่วงหน้าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เฉลี่ยลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 จากความกังวลผลกระทบปัญหาสถาบันการเงินในยุโรปจะลุกลาม ส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
ด้านนางเจนนิเฟอร์ แกรนโฮล์ม รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ แถลงว่า ปีนี้สหรัฐฯ ไม่จำเป็นต้องเร่งเติมน้ำมันดิบเข้าคลังสำรองปิโตรเลียมเชิงยุทธศาสตร์ แม้ขณะนี้ราคาน้ำมัน WTI ปิดตลาดต่ำกว่า 70 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ขณะที่ รัฐบาลสหรัฐฯ เคยกล่าวไว้ว่า จะพิจารณาเข้าซื้อน้ำมันดิบเติมเข้าคลังสำรอง หากราคาน้ำมันดิบลดลงเข้าสู่ช่วง 67-72 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ทั้งนี้เตรียมจับตาการประชุม Joint Ministerial Monitoring Committee (JMMC) ของกลุ่มโอเปก (OPEC) และพันธมิตร หรือ โอเปกพลัส (OPEC+) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 เม.ย. 66 โดยตลาดคาดว่า โอเปกพลัส จะคงนโยบายการผลิตน้ำมันดิบด้วยการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ไปจนถึงสิ้นปี 2566 แม้ว่าจะเกิดวิกฤตธนาคารในช่วงที่ผ่านมา โดยทางเทคนิคราคา ICE Brent ในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวระหว่าง 74-78 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
น้ำมันดิบร่วง 2% ตลาดกังวลสหรัฐฯไม่เติมคลังสำรอง
เลือกตั้งเงินสะพัด หนุนเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 แต่เสี่่ยงบปี 67 ล่าช้า
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
- ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% มาอยู่ที่ 4.75-5.0% ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (Federal Open Market Committee: FOMC) วันที่ 21-22 มี.ค. 66 ตามที่ตลาดคาดการณ์ และอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ภายในปี 66
- Goldman Sachs ปรับลดประมาณการราคาน้ำมันดิบ ICE Brent ในไตรมาส 3/66 อยู่ที่ 85 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ลดลงจากประมาณการครั้งก่อนที่ 95 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อย่างไรก็ดี คาดการณ์ว่าราคา ICE Brent จะเฉลี่ยอยู่ที่ 97 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ภายในไตรมาส 2/67 จากอุปสงค์จากจีนที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังเปิดประเทศ โดยคาดว่าอุปสงค์ของจีนในปี 2566 จะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 15.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน (ปรับเพิ่มขึ้นจากคาดการณ์เดิม 0.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน) และในปี 2567 จะเพิ่มขึ้น 0.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 16.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- กลุ่มประเทศ G7 ประกาศเลื่อนกำหนดทบทวนตัวเลขราคาตามมาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันดิบรัสเซียทางทะเล (Price Cap) ช่วงกลางเดือน มี.ค. 66 ออกไปอย่างไม่มีกำหนด ทั้งนี้ การกำหนดราคาน้ำมันรัสเซียที่ 60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค. 65 ทำให้รายได้จากการจำหน่ายน้ำมันดิบของรัสเซียเดือน ม.ค. 66 ลดลง 40% จากปีก่อนหน้า
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
- ธนาคาร Union Bank of Switzerland (UBS) ในสวิตเซอร์แลนด์บรรลุข้อตกลงซื้อธนาคาร Credit Suisse มูลค่า 3 พันล้านฟรังก์สวิส (3.23 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ) โดยธนาคารแห่งชาติของสวิตเซอร์แลนด์จะหนุนสภาพคล่องด้วยการปล่อยกู้ให้ 1 แสนล้านฟรังก์สวิส (1.07 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ)
- หน่วยงานศุลกากรของจีน (General Administration of Customs: GAC) รายงานปริมาณนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซีย เดือน ม.ค.-ก.พ. 66 อยู่ที่ 1.94 ล้านบาร์เรลต่อวัน (+24% จากปีก่อนหน้า) สูงกว่าปริมาณนำเข้าจากซาอุดีอาระเบียที่ 1.72 ล้านบาร์เรลต่อวัน (-4.7% จากปีก่อนหน้า)