สงครามอิสราเอล-ฮามาสอาจดันราคาน้ำมันทุบสถิติตลอดกาล
ธนาคารโลกเตือนสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส อาจทำให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งทะยานสร้างสถิติใหม่เกิน 150 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
รายงานที่จัดทำโดยธนาคารโลก หรือ World Bank ระบุว่านับตั้งแต่เกิดการสู้รบรอบใหม่ หลังกลุ่มติดอาวุธฮามาสเปิดฉากโจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ราคาน้ำมันดิบได้ปรับตัวสูงขึ้นแล้ว 6%
โดยธนาคารโลกเตือนว่า มีความเป็นไปได้ที่สงครามระหว่างทั้งสองฝ่ายจะทำให้ราคาสินค้าวัตถุดิบทั้งสินค้าเกษตรและพลังงานถีบตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการสู้รบดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับสงครามยูเครน-รัสเซีย ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว ละทำให้ราคาโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1970
อิสราเอลเผย ช่วยตัวประกันออกมาจากฉนวนกาซาได้ 1 คน เป็นทหารหญิง
ยืนยัน “ชานี ลุค” สาวเยอรมัน เหยื่อกลุ่มฮามาสเสียชีวิตแล้ว
แรงงานไทยเปลี่ยนใจยอมกลับบ้าน หลังต้องเสี่ยงชีวิตท่ามกลางเสียงระเบิด!
รายงานของธนาคารโลกได้แบ่งการคาดการณ์ราคาน้ำมันออกเป็น 3 ระดับ โดยสถานการณ์ที่ดีที่สุดคือราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้น 3-13% มาอยู่ที่ระดับ 93-102 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลล์
แต่หากเป็นสถานการณ์ในระดับปานกลาง ราคาน้ำมันจะปรับขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 121 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และหากสถานการณ์เข้าขั้นเลวร้ายที่สุด ราคาน้ำมันจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 140-157 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งจะเป็นการทำลายสถิติราคาน้ำมันสูงสุดตลอดกาลในเดือน ก.ค. 2008 ที่ราคาน้ำมันอยู่ที่ 147 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลล์
ธนาคารโลกได้แนะนำให้บุคคลหรือองค์กรของประเทศต่าง ๆ ที่มีหน้าที่กำหนดนโยบายต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะหากการสู้รบขยายวง ทั่วโลกจะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงด้านราคาพลังงานอย่างกะทันหันที่เกิดจาก 2 ปัจจัยพร้อมๆกัน นั่นคือความขัดแย้งในตะวันออกกลางและสงครามยูเครน-รัสเซีย
เช่นเดียวกับ เอ็นโกซี โอคอนโจ อิเวลา ผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก หรือ WTO ที่เตือนว่า หากสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ลุกลามขยายวงออกไปทั่วตะวันออกกลาง เศรษฐกิจและการค้าโลกจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน เนื่องจากภูมิภาคดังกล่าวเป็นแหล่งพลังงานสำคัญทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
ก่อนหน้านี้ในช่วงต้นเดือน ต.ค. WTO ได้ปรับลดการคาดการณ์แนวโน้มการเติบโตการค้าทั่วโลก ท่ามกลางการชะลอตัวลงของภาคการผลิต โดยคาดว่าในปีนี้การค้าสินค้าที่ไม่ใช่วัตถุดิบทั่วโลกจะเติบโตเพียง 0.8% ซึ่งเป็นการปรับคาดการณ์ลงถึงครึ่งหนึ่งจากเดือน เม.ย.ที่คาดว่าการค้าโลกจะเติบโต 1.7%
อิเวลาระบุว่า ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่หลายชาติกำลังมีปัญหา เช่น จีน ที่การฟื้นตัวยังไม่คึกคัก ส่วนการขยายตัวของเศรษฐกิจในสหภาพยุโรปยังต่ำกว่าที่คาดไว้
ตารางเชียร์ “แอนโทเนีย โพซิ้ว” ชิงมงกุฎ Miss Universe 2023 ลุ้น! รอบตัดสิน (Final) เช้า 19 พ.ย.นี้
เปิดปฏิทิน “เงินสงเคราะห์บุตร 2566” เช็กเลยเข้าบัญชีวันไหนบ้าง
"เมสซี่"คนเดียวจ่อทุบสถิติชาติคว้ารางวัลบัลลงดอร์มากที่สุด