ร้านขายยาแข่งดุ คาดปี 67 ยอดขายโต 4.0% จากกลุ่มร้านเชนสโตร์เพิ่มขึ้น
ร้านขายยาแข่งดุ คาดปี 67 ยอดขายโต 4.0% กลุ่มร้านเชนสโตร์ที่เพิ่มขึ้น กระทบรายย่อย แย่งชิงเภสัชกร
ปี 2567 มูลค่าการใช้จ่ายด้านสุขภาพของคนไทยน่าจะขยายตัวต่อเนื่องถึง 6.0% จากการเป็นสังคมสูงอายุและความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นแรงสนับสนุนให้ ธุรกิจร้านขายยายังเติบโตได้ ข้อมูลจาก ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ยอดขายของร้านขายยาปี 2567จะอยู่ที่ 43,000 ล้านบาท เติบโต 4.0% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่การแข่งขันมีแนวโน้มรุนแรงจากร้านเชนสโตร์ที่ขยายสาขาเพื่อแย่งส่วนแบ่งตลาดกับรายย่อย
ร้านขายยาเป็นหนึ่งในธุรกิจที่น่าจะได้รับอานิสงส์จากเม็ดเงินใช้จ่ายด้านสุขภาพที่เติบโตต่อเนื่องเพราะเป็นช่องทางการเข้าถึงทั้งยารักษาโรค เวชภัณฑ์และสินค้าสุขภาพที่ประชาชนส่วนใหญ่เลือกใช้บริการสำหรับการเจ็บป่วยเบื้องต้นและการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน
ในปี 2566 มีจำนวนร้านขายยาที่ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) รวม21,648 ราย ซึ่งจำนวนร้านขายยาในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดท่องเที่ยวหลักๆ เพิ่มขึ้นต่อเนื่องหรือปัจจุบันมีสัดส่วนราว 62% ของจำนวนร้านขายยาทั้งหมดขณะที่จำนวนร้านขายยาในจังหวัดที่เหลือทยอยลดลงหรือมีสัดส่วนที่ 38%
สัญญาณดังกล่าวสะท้อนถึงการกระจุกตัวของธุรกิจในจังหวัดหลัก โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของร้านขายยาเชนสโตร์ที่มีหลายสาขา (Chain store) ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ทั้งผู้ผลิตยา โรงพยาบาลเอกชนและผู้ประกอบการค้าปลีกรวมถึงร้านขายยารายย่อยที่ไม่มีสาขา (Independent store) ที่ยังขยายสาขาในทำเลที่มีศักยภาพ
สำหรับปี 2567 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ยอดขายของร้านขายยาจะอยู่ที่ 43,000 ล้านบาท เติบโตที่ 4.0% เมื่อเทียบกับปีก่อน ท่ามกลางการแข่งขันของธุรกิจที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นในหลายประเด็น ได้แก่
การรุกขยายสาขาของร้านเชนสโตร์ทำให้รายย่อยแข่งขันลำบาก
เพราะมีทั้งแฟรนไชส์รายใหญ่ผู้ผลิตยาและโรงพยาบาลเอกชน เพื่อเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายทางตรง รวมถึงธุรกิจค้าปลีกที่แตกไลน์ธุรกิจร้านขายยาและสินค้าสุขภาพเพิ่มเติม ซึ่งน่าจะมีข้อได้เปรียบในเรื่องของทำเลที่ตั้งที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้สะดวก สะท้อนได้จากยอดขายของร้านขายยาเชนสโตร์ในปี 2567 คาดว่าจะมีสัดส่วนราว 30% เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่มีสัดส่วนมูลค่าราว 28% ขณะที่สัดส่วนยอดขายของร้านขายยารายย่อยน่าจะมีแนวโน้มลดลง
การแข่งขันเพื่อแย่งชิงเภสัชกร
แม้ว่าปัจจุบันจะมีจำนวนเภสัชกรที่ปฏิบัติหน้าที่ในร้านขายยาประมาณ 22,000 คน ซึ่งยังมีเพียงพอกับจำนวนร้านขายยา แต่ในระยะข้างหน้าหากผู้ประกอบการโดยเฉพาะเชนสโตร์ยังคงมีแผนขยายสาขาเพิ่มขึ้น อาจทำให้ไม่ทันกับความต้องการ เช่น เชนสโตร์รายใหญ่เปิดรับสมัครเภสัชกรทั้งฟูลไทม์ พาร์ทไทม์ โดยแข่งกันเสนอทั้งเงินเดือน ค่าประสบการณ์สวัสดิการต่างๆ รวมถึงเปิดโอกาสให้ร่วมเป็นเจ้าของร้านขายยาเพื่อดึงดูดให้เภสัชกรเข้ามาทำงาน
ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
ผลบอลพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล ชนะ เชฟฯ ยูไนเต็ด ทวงคืนจ่าฝูง
ไขความลับ “ไทเป 101” ตึกสูงสุดในไต้หวันรอดจากแผ่นดินไหวได้อย่างไร?
อัปเดต! “สงกรานต์” หยุดกี่วัน เริ่มวันไหน เช็กเลยวันหยุดราชการ-ธนาคาร
เช็กโปรแกรมบอล ผลบอลสดแบบเรียลไทม์ ‼️
✅ได้แล้วที่เว็บไซต์ พีพีทีวี ตามลิงก์นี้เลย
>> //pptv36.tv/1hWR <<
ไทยลีก พรีเมียร์ลีก และลีกใหญ่ยุโรปครบๆ