แผนพลังงานฉบับใหม่ ลุ้นค่าไฟไม่เกิน 4 บาท/หน่วย ถึงปี 2580
สนพ. จ่อเปิดรับฟังความเห็นแผนพลังงานฉบับใหม่ แก้วิกฤตค่าไฟแพง ลุ้นค่าไฟไม่เกิน 4 บาท/หน่วย ถึงปี 2580 หวังเข้า ครม. ภายใน ก.ย. นี้
นายวีรพัฒน์ เกียรติเพื่องฟู ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า สนพ. กำลังอยู่ระหว่างการจัดทำร่างแผนพลังงานชาติ (National Energy Plan) ฉบับใหม่ ซึ่งจะประกอบไปด้วย 5 แผนสำคัญ ได้แก่
1.แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP ปี 2567-2580)
2.แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP)
3.แผนอนุรักษ์พลังงาน (EEP)
4.แผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ (Gas Plan)
5.แผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง (Oil Plan)

สำหรับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2567-2580 (Power Development Plan: PDP 2024) ฉบับนี้ จะให้ความสำคัญในประเด็นต่างๆ 3 ด้าน คือ
1. ด้านเน้นความมั่นคงของระบบไฟฟ้าของประเทศ (Security)
2. ด้านต้นทุนค่าไฟฟ้าอยู่ในระดับที่เหมาะสม (Economy)
3. ด้านผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (Ecology) เพื่อให้สอดคล้องกับแผนพลังงานชาติ (National Energy Plan)
นอกจากนี้ ในแผน PDP 2024 จะมีการชี้ใช้เกณฑ์โอกาสเกิดไฟฟ้าดับ (LOLE) ต้องไม่เกิน 0.7 วันต่อปี หรือไม่เกิน 17 ชั่วโมง จาก 8,760 ชั่วโมง จากเดิมใช้เกณฑ์กำลังผลิตไฟฟ้าสำรอง (Reserve Margin) รวมทั้งยังกำหนดเป้าหมายของมาตรการเปลี่ยนแปลงพฤติกกรรมการใช้ไฟฟ้า (Demand response) 1,000 เมกะวัตต์ และมาตรการลดความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (Peak) รวมไปถึงจะมีโรงไฟฟ้าใหม่และเทคโนโลยีใหม่ที่จะนำมาพิจารณา ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังน้ำสูบกลับ รับซื้อไฟฟ้าพลังน้ำจากต่างประเทศ โซลาร์ โซลาร์ลอยน้ำ และโซลาร์บวกด้วยระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System : BESS) มีพลังงานนิวเคลียร์ขนาดเล็ก (SMR) เป็นทางเลือกที่สำคัญ คือ แผน PDP 2024 จะพยายามรักษาอัตราค่าไฟฟ้าให้นิ่งตลอดแผน และพยายามให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับอัตราค่าไฟฟ้าในปัจจุบัน หรือประมาณ 4 บาทต่อหน่วย
ส่วนแผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ พ.ศ. 2567-2580 (Gas Plan 2024) นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดหาก๊าซธรรมชาติให้เพียงพอกับความต้องการใช้ของประเทศ และบริหารจัดการระบบโครงสร้างพื้นฐานก๊าซธรรมชาติให้มีความมั่นคงและมีประสิทธิภาพโดย Gas Plan 2024 ได้ประมาณการความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติในระยะยาวจากปัจจัยที่เกี่ยวข้อง พบว่าภาพรวมความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติลดลงจาก 4,859 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ในปี 2567 เป็น 4,747 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ในปี 2580 จากการใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าลดลง เนื่องจากการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนและไฮโดรเจน การใช้ในโรงแยกก๊าซธรรมชาติที่ลดลงตามปริมาณก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย และการใช้ในภาคขนส่ง ตามจำนวนรถ NGV ที่มีแนวโน้มลดลง
ทั้งนี้ สนพ. จะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2567-2580 (Power Development Plan: PDP 2024) และร่างแผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ พ.ศ. 2567-2580 (Gas Plan 2024) โดยในวันที่ 12 - 13มิถุนายน 2567 จะเป็นการเปิดรับฟังความคิดเห็นในกลุ่มภาคราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ผู้ประกอบการ ณ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพ และจะมีการเปิดรับฟังความ คิดเห็นรูปแบบออนไลน์ใน 4 ภูมิภาค ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยในวันที่ 17 มิถุนายน 2567 ช่วงเช้าสำหรับประชาชนภาคกลาง ช่วงบ่ายสำหรับประชาชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และวันที่ 19 มิถุนายน 2567 ช่วงเช้าสำหรับประชาชนภาคใต้ ช่วงบ่ายสำหรับประชาชนภาคเหนือ นอกจากนี้ สนพ. ยังเปิดรับให้ประชาชนทุกภาคส่วนได้เข้ามาแสดงความเห็นผ่านช่องทาง Facebook : EPPO Thailand และเว็บไซต์ www.eppo.go.th ตั้งแต่วันที่ 19 - 23 มิถุนายน 2567 ซึ่งข้อเสนอแนะต่าง ๆ ที่ได้จากการรับฟังความคิดเห็น สนพ. จะนำไปประกอบการปรับปรุงทั้งสองแผนนี้ให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์ต่อไป
ส่วนอีก 3 แผน ได้แก่ แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) แผนอนุรักษ์พลังงาน (EEP) และแผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง (Oil Plan) จะเปิดรับฟังความเห็นภายในเดือนนี้เช่นกัน
ทั้งนี้ หลังจากรับฟังความคิดเห็นแล้วจะนำไปประกอบเข้าสู่แผนพลังงานชาติ และนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไปซึ่งตั้งเป้าว่าจะเข้าครม. ภายในเดือนกันยายน

"โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ" ไม่เปิดเผยค่าลิขสิทธิ์บอลยูโร 2024 ย้ำ PPTV ถ่ายทอดสด
แบรนด์ดังแจง ปม อย.ตรวจพบสาร "ไซบูทรามีน" ในผลิตภัณฑ์อาหารเสริม
7 มิ.ย.67! กฟน.ประกาศ “ดับไฟ” 4 พื้นที่ กทม.-สมุทรปราการ