เตรียมเก็บภาษี แอปฯ TEMU อีคอมเมิร์ซจีน หลังกระทบรายย่อยไทย

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai ว่าโดยสรุปได้ว่าการเข้ามาของ TEMU ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ของจีน เป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจและสร้างความเปลี่ยนแปลงในวงการอีคอมเมิร์ซอย่างมาก ขณะเดียวกันก็ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME)

เนื่องจาก TEMU เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพในการแข่งขันสูง

โดยมองว่ามีทั้งโอกาสและความท้าทายสำหรับผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะกับผู้ประกอบการ SMEs ที่ต้องปรับตัว ในยุคที่เทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ 

ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ ได้ประชุมร่วมกับตัวแทนจาก กระทรวงการคลัง, กระทรวงดิจิทัลฯ, กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงสาธารณสุข, กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI), สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI), สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.), สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) เพื่อหารือและพิจารณาถึงผลกระทบของผู้บริโภค และผู้ประกอบการ จาก E – Commerce ทุก platform 

โดยเฉพาะสินค้าที่ส่งเข้ามานั้นว่าได้มาตรฐานตามข้อกำหนดทางกฎหมายของประเทศไทยหรือไม่ อาทิ มาตรฐาน มอก.  มาตรฐานของ อย. เป็นต้น  ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการนำเข้าสินค้าที่ไม่มีคุณภาพหรือเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค

รวมทั้ง ยังพิจารณาถึง การจัดเก็บภาษีอีคอมเมิร์ซ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการแข่งขัน โดยการกำหนดนโยบายการจัดเก็บภาษีที่เหมาะสมสำหรับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซข้ามชาติ เพื่อให้บริษัทเหล่านี้เสียภาษีอย่างถูกต้องและไม่เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ

นอกจากนี้ สิ่งที่จะต้องดำเนินการควบคู่กัน คือการส่งเสริมและสนับสนุน SME ทั้งการพัฒนาศักยภาพ การสนับสนุนการเข้าถึงตลาดใหม่โดยสร้างช่องทางการตลาดใหม่ ในการบุกตลาดใหญ่อย่างประเทศจีน  ซึ่งขณะนี้ได้มีการสำรวจสินค้าไทยซึ่งเป็นที่ต้องการของคนจีนจำนวนกว่า 500 รายการสินค้า เพื่อทำการซื้อขายดึงเม็ดเงินจากการส่งออกสินค้าเข้าสู่ประเทศ โดยมีเป้าหมายครั้งนี้ อยู่ที่ประมาณมากกว่า 1,500 ล้านบาท

“โซดาไฟ” รู้จักพิษผิวไหม้-เสี่ยงตาบอดและวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น

“วันสารทจีน” ควรไหว้อะไรบ้าง กับข้อห้ามที่ไม่ควรปฏิบัติ

เพจดังเปิด 10 ธุรกิจจีนเทา โกยรายได้มหาศาลจากไทย

ครม. สั่งตั้ง"ภูมิธรรม" เป็นเจ้าภาพ สกัดสินค้าจากต่างประเทศ ขีดเส้นเสนอมาตรการภายในสิ้นเดือนนี้

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเปิดเผยหลัง ประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า ที่ประชุม ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานตำรวจแห่ง โดยขอให้นายภูมิธรรม เวชยชัย  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นเจ้าภาพในการหามาตรการป้องกันและปราบปราม สินค้าผิดกฎหมายจากต่างประเทศ เช่น การตรวจสอบทะเบียนธุรกิจการค้าและใบอนุญาตต่างๆ การนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศและการชำระอากรขาเข้าของผู้ประกอบการเพื่อหาทางสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SME ไทยสามารถปรับตัวและแข่งขันได้ในตลาดสินค้าออฟไลน์และออนไลน์ โดยให้เสนอมาตรการภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้