ถกปมวางยาแมว “แม่หยัว” จี้ทำแนวปฏิบัติหวั่นเกิดเหตุซ้ำ!

สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จัดงานสัมมนา เรื่อง “ดาราสัตว์ในสื่อ นำเสนออย่างไร ไม่ละเมิดจริยธรรม” หลังมีประเด็นดราม่าละครเรื่อง “แม่หยัว” นำแมวดำมาแสดงในฉากวางยา จนทำให้คนดูส่วนใหญ่สะเทือนใจ เพื่อส่งเสริมการดูแลกำกับกันเองบนจริยธรรมสื่อ รวมถึงคำนึงถึงสิทธิของสัตว์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

โดยศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูตร กสทช. ด้านกิจการโทรทัศน์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สร้างความสะเทือนใจกับคนจำนวนมาก ซึ่ง กสทช. ได้เชิญช่องรายการดังกล่าวที่นำเสนอมาชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว โดยได้มีการพูดคุยถึงกระบวนการผลิตเนื้อหาที่ได้มีการวางยาสลบให้กับแมว ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นการทารุณกรรมสัตว์หรือไม่

ผู้ที่ผลิตเนื้อหาไม่ได้มีเจตนากระทำ ซึ่งผู้ผลิตรายการและผู้จัดรายการ อาจไม่ทราบแนวปฏิบัติที่ดี หลังจากนี้เชื่อว่าจะมีแนวทางปฏิบัติที่ดีขึ้น หากนำสัตว์มาใช้ในการเผยแพร่ผ่านสื่อ.....ศ.กิตติคุณ ดร.พิรงรอง กล่าว

เฟส 2! รัฐเตรียมแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทให้ "กลุ่มผู้สูงวัย"

ภายในงานมีผู้แทนและผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิสัตว์มาบรรยายให้ความรู้ โดยรองศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.สุดสรร ศิริไวทยพงศ์ ภาควิชาสูติศาสตร์ เธนุเวชวิทยา และวิทยาการสืบพันธุ์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การนำสัตว์ออกมาใช้ในการแสดงต้องรู้ก่อนว่าแต่ละประเภทมีความแตกต่างกัน และต้องดูแลอย่างใกล้ชิด สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงอันดับแรกต้องตรวจประเมินความแข็งแรงของร่างกายสัตว์และความเครียด เช่น แมว เป็นสัตว์ที่ติดบ้านและอาจเกิดความเครียดได้ง่าย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อร่างกาย ทั้งระบบประสาท ระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินโลหิต และระบบขับถ่าย

อย่าคิดว่าการวางยาสลบสัตว์เป็นเรื่องง่าย ต้องมีวิสัญญีแพทย์ เพราะยาสลบจะทำให้หัวใจจะเต้นช้าลง ระบบขับถ่ายมีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นการวางยาสลบในสัตว์ทุกครั้งต้องมีการติดตามและดูแลอย่างใกล้ชิด.....รศ.นสพ. ดร.สุดสรร กล่าว

ส่วนสัตว์ประเภทอื่น เช่น ช้าง ควาย งู และม้า ระดับความเครียดมีความแตกต่างกัน แต่ก็ควรได้รับการดูแลที่เหมาะสมเหมือนกัน และสัตว์ทุกชนิดควรมีสภาพร่างกายที่แข็งแรง ทั้งนี้ สื่อ ควรนำเสนอให้เหมาะสม และควรให้ความสำคัญกับสัตว์ทุกชีวิตที่จะนำมาแสดง

ว่าที่ร้อยตรีหญิง สัตวแพทย์หญิง ดร.วัชรี โซวิจิตร กรรมการสัตวแพทยสภา ได้พูดถึงแนวปฏิบัติที่ควรจะเป็นในกองถ่ายละคร ว่า สัตวแพทยสภาจะเข้าไปกำกับสัตวแพทย์ที่จะไปควบคุมดูแลดาราสัตว์ในกองถ่ายละครด้านการดูแลสวัสดิภาพของสัตว์ว่าเป็นอย่างไร

นางสาวษมาวีร์ พุ่มม่วง ทีมงานกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศในไทย โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์อิสระ และเจ้าของเพจ วันละภาพ กล่าวด้วยว่า ได้ทำงานร่วมกับกองถ่ายทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งในบริบทของกองถ่ายละครไทย มีการพูดคุยเรื่องการนำดาราสัตว์มาใช้ในละครกันมาแล้ว แต่ยังขาดกฎหมายที่ดูแลอย่างชัดเจน และขาดหน่วยงานกลางที่จะประสานสิ่งเหล่านี้มาใช้กับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของเรา ซึ่งบริบทการนำดาราสัตว์มาใช้ในกองละครของไทย เช่น สุนัข แมว หนู และแมลงสาบ ยังไม่มีเกณฑ์กำหนดที่ชัดเจนว่าต้องปฏิบัติอย่างไรให้เหมาะสมที่สุด แต่ที่กองถ่ายละครต่างประเทศจะมีตำแหน่งที่อยู่หน้างานคอยประสานดูแลเฉพาะดาราสัตว์และมีใบประกอบวิชาชีพ ซึ่งได้ถูกอบรมและมีความเชี่ยวชาญด้านการดูแลดาราสัตว์อย่างเหมาะสม

ผศ.ดร.จิราพร เหล่าเจริญวงศ์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้พูดถึงการตายของสัตว์ในภาพยนตร์/ละคร โดยได้ยกตัวอย่างการตายของสัตว์ซึ่งเป็นเหตุการณ์ช้างถูกช็อตไฟฟ้าให้ตายของดาราสัตว์ และตั้งคำถามว่า การตายของสัตว์ควรถูกเผยแพร่หรือไม่

นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี นายกสมาคมสภาวิชาชีพกิจการการแพร่ภาพและการกระจายเสียง (ประเทศไทย) กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นเรื่องแมว เป็นเรื่องคาบเกี่ยวที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายและจริยธรรม ซึ่งสภาวิชาชีพฯ ดูแลเรื่องจริยธรรม และมีความกังวลต่อความรู้สึกของสาธารณะ ซึ่งในข้อบังคับจริยธรรมและจรรยาบรรณในการแพร่ภาพไม่ได้เขียนเรื่องนี้ไว้โดยตรงแต่มีการพูดถึงเรื่องการไม่ใช้ความรุนแรงและการทารุณกรรม ซึ่งครอบคลุมสัตว์ด้วย

สิ่งที่ควรทำคือต้องมี guideline หรือแนวปฏิบัติที่ดีอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก โดยต้องมีผู้เชี่ยวชาญและสัตวแพทย์มาร่วมยก (ร่าง) แนวปฏิบัติฯ และจะเปิดรับฟังความคิดเห็น โดยเชิญผู้ผลิตสถานีและคนที่ทำงานด้านสื่อ และผู้มีส่วนได้เสียกับเรื่องนี้ มาพิจารณาร่วมกันว่าแนวปฏิบัติที่จะพิจารณาขึ้นมาสามารถปฏิบัติในความเป็นจริงได้หรือไม่.....นายชวรงค์ กล่าว