นายกฯ "แพทองธาร" พบ 5 บริษัทชั้นนำ หารือทิศทางการลงทุนในไทย
นายกรัฐมนตรีพบ 5 บริษัทยักษ์ใหญ่ ดึงลงทุนไทยเพิ่ม “เนสท์เล่” เตรียมขยายโรงงานกาแฟ DP World เล็งศึกษาการลงทุน Landbridge ขณะที่ Coca-Cola ประกาศส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว พร้อมตั้งเป้าไทยเป็นศูนย์กลาง wellness & medical hub ภายในปี 2573
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อยู่ระหว่างการเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum ประจำปี 2568 (WEF Annual Meeting 2025: WEF AM25) ระหว่างวันที่ 20 - 25 มกราคม 2568 ณ เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส
โดยในวันแรก นางสาวแพทองธาร ได้พบหารือกับผู้บริหารภาคธุรกิจเอกชนรายใหญ่ 3 ราย ประกอบด้วย บริษัทเนสท์เล่ , บริษัท DP World (UAE) และ บริษัท Coca-Cola , บริษัท Bayer และ บริษัท AstraZeneca โดยมีสาระสำคัญที่น่าสนใจ ดังนี้

“เนสท์เล่” เล็งขยายโรงงานผลิตเนสกาแฟในไทย
นายกรัฐมนตรี พบหารือการลงทุนในไทยกับนายเรมี เอเจล (Mr. Remy Ejel) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชีย โอเชียเนีย และแอฟริกา (Chief Executive Officer Zone Asia, Oceania and Africa) บริษัทเนสท์เล่ (Nestlé)
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ขอบคุณบริษัทที่อยู่คู่คนไทยมานาน จนมีผลิตภัณฑ์มากมายที่คนไทยรู้จักดี และ ขอบคุณในการสนับสนุนเกษตรกรไทย ในการใช้วัตถุดิบ ทางการเกษตรและอื่น ๆ ของประเทศไทย
ขณะที่ นายเรมี เอเจล ผู้บริหารระดับสูงของเนสท์เล่ ได้หารือถึงแนวทางการส่งเสริมการลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมกาแฟไทย โดยในช่วงปี 2561 – 2567 เนสท์เล่ลงทุนในประเทศไทยเพื่อขยายสายการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์กาแฟ เครื่องดื่ม UHT และอาหารสัตว์ ที่มีมูลค่ารวมสูงกว่า 22,800 ล้านบาท
ผู้บริหารของเนสท์เล่ยืนยันว่าในปี 2568 จะมีการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อขยายสายการผลิต โดยเฉพาะโรงงานผลิตเนสกาแฟ และสนับสนุนเกษตรกรไทยในการขยายพื้นที่เพาะปลูกกาแฟซึ่งเป็นพืชเกษตรที่เป็นที่ต้องการของตลาดและมีราคาดี รวมทั้งจะสนับสนุนการให้ความรู้ด้านการเพาะปลูกกาแฟแก่เกษตรกรไทยอย่างต่อเนื่อง

DP World เล็งศึกษาการลงทุน Landbridge
วันเดียวกันนี้ นางสาวแพทองธาร ยังพบหารือกับ สุลต่าน อะห์เหม็ด บิน สุลาเย็ม (H.E. Sultan Ahmed bin Sulayem) ประธานกลุ่มบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท DP World (UAE)
นายกรัฐมนตรีได้หารือประเด็นต่อเนื่องจากที่ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีที่ได้ดำเนินการไว้เมื่อปีที่ผ่านมา พร้อมยินดีกับบริษัท DP World ที่เล็งเห็นศักยภาพของประเทศไทย และมีความพร้อมในการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง เพราะตั้งอยู่ในจุดที่ได้เปรียบพร้อมใช้ประโยชน์จากที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์
ขณะที่ รัฐบาลยังดำเนินโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ อาทิ โครงการ Landbridge, โครงการรถไฟทางคู่ และโครงการรถไฟความเร็วสูง เป็นต้น เพื่อผลักดันไทยสู่การเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค
ด้าน ประธานกลุ่มบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DP World กล่าวว่า บริษัทสนับสนุนไทยในการพัฒนาสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ICD) ลาดกระบัง ให้เป็น ศูนย์โลจิสติกส์ระดับภูมิภาคแบบหลายรูปแบบ (Multi-modal) สำหรับการค้าข้ามพรมแดนระหว่างจีน อินโดจีน มาเลเซีย และสิงคโปร์ ผ่านการเชื่อมโยงเครือข่ายทางรถไฟ รวมทั้งโครงการท่าเทียบเรือชุด B ณ ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถรองรับเรือและตู้คอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ รองรับการขนส่งและโลจิสติกส์ทั้งระดับประเทศและระดับโลก
นอกจากนี้ DP World พร้อมจะเดินหน้าศึกษาการลงทุนโครงการ Landbridge เพื่อสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งของภูมิภาคอาเซียนและเชื่อมโยงไปมหาสมุทรอินเดียและกลุ่มประเทศ BIMSTEC

ร่วมมือ Coca-Cola ส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว
นางสาวแพทองธาร ยังพบหารือกับนายเจมส์ ควินซีย์ (Mr. James Quincey) ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Coca-Cola ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มครบวงจรสัญชาติอเมริกัน
ประธานบริษัท Coca-Cola เปิดเผยว่า ยินดีที่ได้พบหารือกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นโอกาสในการพูดคุยและสานต่อความร่วมมือระหว่างกัน โดยยืนยันความเชื่อมั่นของบริษัท ในศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทย และพร้อมเป็นพันธมิตรของไทย โดยเฉพาะการเพิ่มพูนทักษะ และคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทย
ขณะที่นายกรัฐมนตรี ยืนยันความต่อเนื่องของนโยบายรัฐบาลในการพัฒนาทางเศรษฐกิจ การส่งเสริมการค้าและการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะการส่งเสริมห่วงโซ่อุปทาน และการส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงความตั้งใจของตนเองที่มีความตั้งใจสนับสนุนทุนการศึกษา เพื่อโอกาสการศึกษาและอนาคตของเยาวชนไทย เสริมสร้างทักษะ ซึ่งจะเป็นแรงงานคุณภาพในอนาคต รวมทั้งการอำนวยความสะดวกภาคธุรกิจ
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือเพื่อติดตามความคืบหน้าความร่วมมือที่สำคัญระหว่างกัน โดยเฉพาะการบังคับใช้ พ.ร.บ.การจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน (Sustainable Packaging Management Act) ของไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีชื่นชมบริษัท Coca-Cola ที่มีส่วนสำคัญในการผลักดัน พ.ร.บ. ดังกล่าว ตลอดจนเห็นว่าทั้งสองฝ่ายยังมีศักยภาพที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันได้อีกมาก โดยเฉพาะในด้านความมั่นคงด้านน้ำ (water security) และการส่งเสริม Soft Power ซึ่งบริษัท Coca-Cola มีความเชี่ยวชาญและพร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่ดีกับไทยด้วย

พบ Bayer เน้นย้ำนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่
นายกรัฐมนตรี พบหารือกับ นายสเตฟาน อูลริช กรรมการบริหาร บริษัท ไบเออร์ เอจี และผู้บริหารสูงสุดแผนกฟาร์มาซูติคอล โดยได้เน้นย้ำนโยบาย “30 บาทรักษาทุกที่” ซึ่งหนึ่งในปัจจัยสำคัญคือการพัฒนากระบวนการวิจัยด้านการแพทย์ ยา และนวัตกรรมการรักษาโรค
นายกรัฐนตรี เชื่อว่าจะสามารถแลกเปลี่ยนความร่วมมือระหว่างกันได้ ในการยกระดับนักวิจัยของไทยตามมหาวิทยาลัยต่างๆ นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญต่อการพัฒนาการเกษตรของไทยที่จะเป็นวัตถุดิบในการผลิตตัวยาต่อไป

คุย AstraZeneca ตั้งเป้าศูนย์กลาง wellness & medical hub
นายกรัฐมนตรี พบหารือ นาย Michel Demaré ประธานกรรมการ บริษัท AstraZeneca จำกัด (มหาชน) โดยได้แสดงความยินดีที่บริษัท มีแผนการลงทุนในประเทศไทยด้านโครงสร้างพื้นฐาน อุปกรณ์ บุคลากรที่มีทักษะสูง การถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านชีวการแพทย์และการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ
โดยมุ่งเน้นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) อาทิ โรคไตและโรคมะเร็ง (มะเร็งทรวงอกและมะเร็งปอด) รวมถึงการวินิจฉัยและรักษาแต่เนิ่นๆ ในประเทศไทย โดยรัฐบาลพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกเรื่องการลงทุน โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกภาคธุรกิจและส่งเสริมการวิจัยและนวัตกรรม เพื่อมุ่งหน้าสู่การเป็นศูนย์กลาง wellness & medical hub ให้ได้ในปี 2573