สภาเรือฯ มองส่งออกปี 68 โตสูงสุด 3 % เฝ้าระวัง นโยบายทรัมป์ ใกล้ชิด
สภาเรือฯ คาดการณ์ส่งออกปี 68 โตสูงสุด 3 % ยังต้องเฝ้าระวังความผันผวน นโยบายทรัมป์
นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย หรือ สรท. เปิดเผย สถานการณ์ส่งออกของไทย เดือนธันวาคม และภาพรวมการส่งออกทั้งปี 2567 โดยระบุว่า ภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนธันวาคม 2567 การส่งออกมีมูลค่า 24,765 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยขยายตัวร้อยละ 8.7 หรือคิดเป็นเงินบาท 853,305 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 7.2 ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 24,776 ล้านเหรียญสหรัฐ พบว่า หดตัวร้อยละ 13.4 ส่งผลให้ดุลการค้าของไทยในเดือนธันวาคม 2567 ขาดดุลเท่ากับ 10.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และขาดดุลในรูปของเงินบาท 10,625 ล้านบาท

ขณะที่ภาพรวมการค้าระหว่างประเทศของไทยในปี 2567 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน พบว่า มูลค่าการส่งออกของไทยอยู่ 300,529.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 5.4 หรือคิดเป็นเงินบาท 10,548,759 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 7.3 ขณะที่ภาพรวมการนำเข้าในปี 2567 มีมูลค่า 306,809.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 6.3 หรือคิดเป็นเงินบาทเท่ากับ 10,896,480 ล้านบาท หดตัวร้อยละ 3.8 ส่งผลให้ดุลการค้าของประเทศไทยในเดือนมกราคม - ธันวาคม 2567 ขาดดุลเท่ากับ 6,280.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นการขาดดุลในรูปเงินบาท 347,721 ล้านบาท
จากการส่งออกทั้งปี 2567 โตเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.4 ถือเป็นการเติบโตในระดับที่เกินเป้าหมาย ทำให้ฐานปี 2567 ค่อนข้างสูง สรท. จึงคาดการณ์ส่งออกปี 2568 เติบโตที่ร้อยละ 1-3 โดยยังคงมีปัจจัยเสี่ยงและความผันผวนสำคัญที่ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด ได้แก่
- นโยบายของสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้เกิดความผันผวนทางการค้าในระยะต่อไป
- ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ที่ยังไม่มีข้อยุติทั้งกรณี รัสเซีย-ยูเครน และสถานการณ์ในตะวันออกกลาง
- ค่าเงินบาทยังคงมีความผันผวน เป็นผลมาจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ทำให้ดอลลาร์แข็งค่า และส่งผลให้นักลงทุนเข้าถือสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น
- ปัจจัยเฝ้าระวังขนส่งสินค้าทางทะเล อย่าง การบริหารจัดการเที่ยวเรือและระวางเรือของสายเรือ ,ผลกระทบเปลี่ยนกลุ่มพันธมิตรสายเรือ รวมถึง ความแออัดของท่าเรือแหลมฉบัง
- ประเด็นอื่นๆ เช่น ต้นทุนผู้ประกอบการ ทั้งในส่วนของต้นทุนพลังงาน ต้นทุนค่าแรง ต้นทุนทางการเงิน ยังค่อนข้างสูง ส่งผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาดโลก และ ความพร้อมของประเทศไทยในการรับมือกับรูปแบบและมาตรการทางการค้าใหม่ รวมถึงมาตรการตอบโต้
นอกจากนี้ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ยังได้มีข้อเสนอแนะที่สำคัญ ในการให้รัฐเร่งแก้ปัญหาที่มีอยู่ในปัจจุบัน และเตรียมพร้อมรับมือกับความเสี่ยงรวมถึงความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่
- ให้เร่งรัดให้มีการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและภาคเอกชน กระทรวงพาณิชย์ (กรอ.พณ.) รายเดือนหรือรายไตรมาส เพื่อติดตามสถานการณ์ความผันผวนการค้าระหว่างประเทศ
- จัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
- เร่งเจรจาการค้าเสรีและจัดทำข้อตกลงความร่วมมือทางการค้ากับคู่ค้าสำคัญ (FTA) รวมถึงเร่งเจรจาทวิภาคีกับสหรัฐอเมริกา
- ส่งเสริมการลงทุนของไทยในประเทศเป้าหมาย เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการกีดกันทางการค้า
- ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำกับดูแลการผลิตเพื่อส่งออกให้สอดคล้องกับมาตรฐานสินค้าของประเทศคู่ค้าปลายทาง ทั้งในส่วนของสถานประกอบการทั่วไป และสถานประกอบการในพื้นที่ Free Zone
และที่สำคัญที่เป็นปัญหาใหญ่ขณะนี้ คือ ขอให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งประสานความร่วมมือดำเนินการแก้ไขปัญหาการจราจรแออัดภายในท่าเทียบเรือแหลมฉบังโดยด่วน