ไม่เกิน 6 เดือนเห็นแน่ รัฐบาลรับซื้อหนี้ ที่ต่ำกว่า 1 แสนบาท
พิชัย ลั่น! เตรียมรับซื้อหนี้ที่ต่ำกว่า 1 แสนบาท เพื่อช่วยลูกหนี้หลุดจากแบล็คลิสต์เครดิตบูโร คาดมีผลไม่เกิน 6 เดือน
จากกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวบนเวทีปราศรัยที่จังหวัดพิษณุโลก ว่ารัฐบาลเตรียมประกาศนโยบายเศรษฐกิจอันใหม่ คือ การรับซื้อหนี้ และช่วยให้ลูกหนี้ออกจากแบล็คลิสต์เครดิตบูโร โดยความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (20 มี.ค. 68) นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานเปิดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 47 เสร็จสิ้น ว่า รัฐบาลเตรียมออกมาตรการรับซื้อหนี้ที่ต่ำกว่า 1 แสนบาท

เพื่อช่วยลูกหนี้หลุดจากแบล็คลิสต์เครดิตบูโร คาดมีผลไม่เกิน 6 เดือน โดยหนี้ดังกล่าวมีสัดส่วน ประมาณ 35% ของหนี้เสียทั้งระบบ (NPL) ที่มีอยู่ 1.2 ล้านล้านบาท และส่วนใหญ่จะเป็นสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค และบัตรเครดิต
ทั้งนี้ รัฐบาลจะหาวิธีดึงหนี้ส่วนนี้ ออกมาจาก สถาบันการเงิน เนื่องจากหนี้ดังกล่าว ส่วนใหญ่ เป็นหนี้เสียที่สถาบัน มีการตั้งสำรองสินทรัพย์ด้อยคุณภาพไว้ครบแล้ว และทางเจ้าหนี้ ไม่สามารถ ติดต่อลูกหนี้ได้ รวมถึงจะหาวิธีให้หนี้ดังกล่าวที่ถูกดึงออกมาแล้ว ทำให้ลูกหนี้ หลุดจากการติดแบล็คลิสต์เครดิตบูโร ซึ่งเชื่อว่า มีวิธีที่จะสามารถดำเนินการได้
สำหรับวิธีดำเนินการที่สามารถดำเนินการได้ เช่น การใช้บรรษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) ของธนาคารออมสิน ที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ รวมถึง จะพิจารณาหากลไกอื่นๆเพิ่มเติมในการดึงหนี้ออกมา
โดย นายพิชัย ยืนยันว่า การดำเนินการดังกล่าว จะ ใช้งบประมาณของรัฐบาลไม่มากนัก อาจจะมีเพียงในส่วนของค่าบริหารจัดการ ซึ่งจะไม่เป็นภาระกับรัฐบาล
เรื่องนี้ก็ได้มีการหารือกับสมาคมธนาคารเมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อขอให้มีการปล่อยสินเชื่อใหม่เข้าสู่ระบบ รวมถึง ให้มีการช่วยปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนเพิ่มเติม
โดยนายพิชัย เปิดเผยด้วยว่า ปัจจุบัน หนี้ครัวเรือน ซึ่งอยู่ที่สถาบันการเงิน ไม่รวมในสหกรณ์ออมทรัพย์ มีอยู่ราว 13 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 9 ล้านบัญชี ที่คิดเป็นจำนวนลูกหนี้ 5 ล้านคน