ยอดผลิตรถยนต์ ก.พ. ลดลง 13% ยอดขายวูบ 6.68% ส่งออก ลด 8%
ส.อ.ท.เปิด ยอดผลิตรถยนต์ เดือน ก.พ. ปี 68 ลดลงกว่า 13% ยอดขายลด 6% ยอดส่งออก ลด 8% ยอมรับ ! กังวล การขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า จำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 พบว่า ยอดผลิตรถยนต์รวมทุกประเภท อยู่ที่ 115,400 กว่าคัน ลดลง 13.62% ขณะที่ รถกระบะอยู่ที่ 76,017 คัน ลดลง 5.28% ซึ่งยอดขายกระบะลดลง เพราะการปฏิเสธสินเชื่อยังสูง ส่งผลให้จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 222,590 คัน ลดลง 19.29%

ขณะที่ ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศ มีจำนวนทั้งสิ้น 49,313 คัน ลดลง 6.68% จากการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินกับผู้ซื้อรถกระบะที่ยังคงลดลง 14.9% จึงคงต้องรอยอดจองรถยนต์ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ ที่เริ่มวันที่ 26 มีนาคม ถึงวันที่ 6 เมษายน 2568 ที่สถาบันการเงินอาจปล่อยสินเชื่อรถกระบะมากขึ้น
และล่าสุด นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้แถลงมาตรการช่วยเหลือรถกระบะในโครงการ "รถกระบะพี่ มีคลังค้ำ" โดยให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย)ค้ำประกันสินเชื่อซื้อรถกระบะซึ่งเป็นรถประกอบธุรกิจของประชาชนและเกษตรกรซึ่งถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทย มีวงเงิน 5 พันล้านบาท โดยเริ่มรับคำขอตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 ซึ่งอยู่ในช่วงงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเคอร์โชว์ ถึง วันที่ 31 ธันวาคม 2568 เพื่อกระตุ้นยอดขายรถยนต์และส่งเสริมให้ SME ซื้อรถกระบะไปประกอบอาชีพและสร้างรายได้
โดย ส.อ.ท. เชื่อว่า มาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ“ ช่วยกระตุ้น เริ่มสมัคร 1 เม.ย.นี้ ยังอยู่ในช่วงมอเตอร์โชว์ ยอดจองกระบะน่าจะคึกคักขึ้น แต่อยากให้ผ่อนคลายเกณฑ์ให้นอนแบงก์ ลีสซิ่งของบริษัทรถยนต์ เข้าร่วมมาตรการได้ด้วย เพราะจะช่วยเพิ่มการปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น รวมถึงยังต้องรอประเมินผลมาตรการอีก 1-2 เดือน ถ้าได้ผลดีมาก จะช่วยดึง GDP ให้โตเกิน 3% ด้วย
ส่วนยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป ส่งออกได้ 81,323 คัน ลดลง 8.34% เพราะจะมีการเปลี่ยนรุ่นรถของรถยนต์นั่งบางรุ่น จึงชะลอการผลิต ทำให้ส่งออกลดลงในตลาดเอเชีย ยุโรป อเมริกาเหนือ อเมริกากลางและอเมริกาใต้ และยังคงต้องติดตามการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้ารถยนต์ของสหรัฐอเมริกาในวันที่ 2 เมษายน 2568 ว่าจะมีประเทศไหนบ้าง และบางประเทศคู่ค้าลดคำสั่งซื้อเพื่อรอความชัดเจนในนโยบายการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา บางประเทศคู่ค้ามีรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกเข้ามามีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น บางประเทศคู่ค้ามีกฎหมายควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากประเทศขึ้น
อย่างไรก็ตาม รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่น ๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 78,095.61 ล้านบาท ลดลงจากปี 2567 คิดเป็น 12.42%
ทั้งนี้ ส.อ.ท. ยังเป็นห่วงภาคส่งออก และการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐ ที่ทำให้ต่างประเทศ เช่น เม็กซิโก และแคนาดา ส่งออกรถยนต์ลดลง ทำให้การส่งออกชิ้นส่วนของไทยได้รับผลกระทบไปด้วย