“ทรัมป์” ยัน จีนต้องเป็นฝ่ายขอเจรจาสหรัฐฯ ก่อน หากต้องการจบสงครามการค้า
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยืนกรานว่า รัฐบาลจีนต้องเป็นฝ่ายยื่นมือเข้ามาขอเจรจาก่อน จึงจะสามารถหาทางจบสงครามการค้าสองประเทศได้
สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนดูเหมือนจะยังไม่สิ้นสุดลงง่าย ๆ หลังล่าสุดประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาเรียกร้องให้จีนติดต่อเขาเพื่อเริ่มการเจรจาคลี่คลายสงครามการค้า
โดยเมื่อวันที่ 15 เม.ย. แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว ได้อ่านสิ่งที่เธอบอกว่าเป็นแถลงการณ์ที่ทรัมป์เขียนมาให้ ซึ่งระบุว่า “จีนจำเป็นต้องทำข้อตกลงกับเรา เราไม่จำเป็นต้องทำข้อตกลงกับพวกเขา”

แถลงการณ์เสริมว่า “ไม่มีความแตกต่างระหว่างจีนกับประเทศอื่นใด ยกเว้นแค่ว่าจีนมีขนาดใหญ่กว่ามาก และจีนต้องการสิ่งที่เรามี สิ่งที่ทุกประเทศต้องการ สิ่งที่เรามี นั่นคือผู้บริโภคชาวอเมริกัน หรือพูดอีกอย่างก็คือ พวกเขาต้องการเงินของเรา”
ความคิดเห็นดังกล่าวเป็นสัญญาณใหม่ที่แสดงให้เห็นว่า สหรัฐฯ และจีนยังคงยืนกรานว่าการต่อสู้ทางการค้าจะยังไม่สิ้นสุดลง โดยทั้งสองฝ่ายยังคงเพิ่มอุปสรรคทางการค้าให้สูงขึ้นจนน่าตกใจ
โดยล่าสุด จีนเพิ่งสั่งสายการบินในประเทศไม่ให้รับมอบเครื่องบินของบริษัทโบอิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติสหรัฐฯ
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ วิพากษ์วิจารณ์จีน โดยระบุว่ารัฐบาลจีน “ผิดสัญญาข้อตกลงใหญ่กับโบอิ้ง” ที่ลงนามในรัฐบาลสมัยแรกของเขา
รัฐบาลทรัมป์กล่าวว่า กำลังเจรจากับอีกหลายสิบประเทศเพื่อลดอุปสรรคการค้า แลกกับการผ่อนปรนภาษีตอบโต้ที่ขณะนี้ถูกระงับเป็นเวลา 90 วันตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 เม.ย. เพื่อให้มีเวลาสำหรับการเจรจา
เลวิตต์บอกว่า ทรัมป์กำลังพิจารณาข้อเสนออย่างน้อยจาก 15 ประเทศ และได้แจ้งให้ทีมการค้าของเขาทราบอย่างชัดเจนว่า “เขาต้องการลงนามในข้อตกลงทั้งหมดเหล่านี้ด้วยตัวเอง”
โฆษกทำเนียบขาวเสริมว่า “ยังมีงานอีกมากที่ต้องทำ เราเข้าใจเรื่องนี้ดี แต่เราเชื่อว่าเราจะสามารถประกาศข้อตกลงบางส่วนได้ในเร็ว ๆ นี้” โดยไม่ได้ระบุว่าประเทศใดบ้างที่ใกล้จะบรรลุข้อตกลงแล้ว
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ สหรัฐฯ และจีนยังไม่ได้มีการดำเนินการใด ๆ ในระดับที่สูงขึ้น โดยทั้งสองประเทศต่างก็แสดงท่าทีดูหมิ่นและขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากอีกฝ่ายสูงขึ้น
จีนประกาศว่าจะจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ทั้งหมด 125% ตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย. เป็นต้นไป โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ เอาคืนด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนสูงขึ้นทุกครั้งที่จีนประกาศมาตรการตอบโต้
ทำเนียบขาวยังยืนกรานว่า จีนต้องเป็นฝ่ายยื่นมือเข้ามาเจรจาก่อน ในขณะที่จีนระบุว่า ยังไม่ชัดเจนเกี่ยวกับข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ
เรียบเรียงจาก Bloomberg