คลัง หารือ ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ เตรียมมาตรการรับมือภาษีตอบโต้ สหรัฐฯ
พิชัย รมว.คลัง ถก ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ หารือรับมือภาษี สหรัฐฯ ยัน ! มีมาตรการพร้อม แต่ขอประเมินผลกระทบก่อน
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอความคิดเห็นและหาแนวทางเจรจาการรับมือภาษีตอบโต้สหรัฐร่วมกัน โดยที่ประชุมหารือมาตรการที่จะใช้ดูแลในเรื่องของผลกระทบต่อผู้ส่งออกเตรียมไว้ แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะใช้มาตรการอะไร เพราะว่าจากการแลกเปลี่ยนข้อมูล

ยังไม่สามารถคาดเดาผลสรุปของผลกระทบจากมาตรการภาษีที่ชัดเจนได้ เนื่องจากไม่ได้มีผลกระทบเฉพาะการค้าไทยกับสหรัฐ แต่จะได้รับผลกระทบจากการค้าของไทยกับประเทศอื่นๆที่สหรัฐขึ้นภาษีด้วย
ยืนยันว่า แบงก์ชาติ กับกระทรวงการคลัง จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้น เพื่อเตรียมมาตรการรองรับผลที่จะตามมา
นายพิชัย ยอมรับว่า มาตรการภาษีของสหรัฐ เริ่มส่งผลกระทบต่อตลาดเงินตลาดทุน ตลาดหุ้น และตลาดพันธบัตร ที่มีความผันผวนเพิ่มขึ้น
ส่วนผลกระทบต่อผู้ส่งออก ก็อาจจะมาจากการที่คู่ค้าของไทยชะลอคำสั่งซื้อสินค้า ซึ่งก็จะกระทบต่อสภาพคล่องของผู้ส่งออกได้ ขณะที่ ผู้นำเข้า ก็จะได้รับผลกระทบตามมาจากการส่งออกที่ชะลอลงด้วย ขณะเดียวกัน ก็อาจจะทำให้ผู้นำเข้าของต่างประเทศ เร่งนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นในช่วงที่สหรัฐมีการชะลอการขึ้นภาษีได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น จะต้องมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
ทั้งนี้ จากการหารือทางแบงก์ชาติ จะติดตามสถานการณ์และผลกระทบมาตรการภาษีอย่างใกล้ชิด เพื่อนำมาเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินในวันที่ 30 เมษายนนี้ เพื่อตัดสินใจในเรื่องดอกเบี้ยนโยบาย และเรื่องของการดูแลค่าเงินบาท โดยแบงก์ชาติ ยืนยันว่า สภาพคล่องในระบบการเงินของไทยในปัจจุบันยังมีอย่างเพียงพอ
พร้อมกันนี้ ยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีแนวคิดที่จะนำทุนสำรองทางการระหว่างประเทศออกมาใช้ในสถานการณ์นี้ เพราะโดยหลักจะต้องใช้เป็นตัวหนุนหลังการนำเข้าและส่งออก โดยในเรื่องนี้รัฐบาลมีหน้าที่สร้างสมดุลทางการค้า ส่วนการบริหารค่าเงิน เป็นหน้าที่ของผู้รับผิดชอบ และจะการแทรกแซงค่าเงินอย่างไรนั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีใครเปิดเผยกัน