สนค. เผย การค้าชายแดนฟื้นตัว! แต่บรรยากาศยังซบเซา
สนค. รายงาน เหตุปะทะไทยกัมพูชา พบ สถานการณ์ ยังไม่สงบ ขณะที่ เศรษฐกิจการค้าบริเวณชายแดนเริ่มฟื้นตัว แต่บรรยากาศยังซบเซา
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า หรือ สนค. รายงานสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย - กัมพูชา ประจำวันที่ 3 สิงหาคม 2568
โดยได้สรุปสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และการดำเนินการของกองทัพ ว่า ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังไม่สงบ แต่พบว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจการค้าและผลกระทบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเริ่มฟื้นตัว เช่น บรรยากาศตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว เริ่มฟื้นหลังผ่อนผันแรงงานกัมพูชาอยู่ต่อได้ 6 เดือน ร้านค้ากลับมาเปิดเพิ่ม
แต่บรรยากาศยังซบเซา แม้ยังคงมีชาวกัมพูชาจำนวนหนึ่งเดินทางกลับประเทศเนื่องจากความกังวลในสถานการณ์ดังกล่าว และเหตุผลส่วนตัว ซึ่งด่านถาวรบ้านคลองลึกจะเปิดให้ข้ามแดนกลับได้ในช่วงเวลา 13.00 - 16.00 น. เท่านั้น
ส่วนนักลงทุนเครื่องนุ่งห่มไทยในกัมพูชา กลับมาเปิดการผลิตอีกครั้ง หลังมีการหยุดปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ ระยะยาวอาจจะต้องจับตาเพราะยังกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยคำสั่งซื้อและการขนส่งสินค้านั้น ในระยะสั้นยังคงสามารถส่งสินค้าและนำเข้าวัตถุดิบจากเมืองไทยได้
ขณะที่มีการตรวจพบการใช้อากาศยานไร้คนขับหรือโดรนปรากฏในพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในห้วงสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา กองทัพบกจึงยกระดับมาตรการรับมือภัยคุกคามดังกล่าวอย่างเข้มงวด
กองทัพไทยควบคุมพื้นที่ช่องอานม้าได้เพิ่มขึ้น - ผลักดันกัมพูชาพ้นพื้นที่รุกล้ำ พร้อมตรึงกำลังทหารในพื้นที่รักษาความได้เปรียบทางยุทธวิธี เพื่อป้องกันเหตุปะทะและรักษาเสถียรภาพในพื้นที่อ่อนไหว
กองทัพบกยืนยันปฏิบัติต่อเชลยศึกตามหลักสากล พร้อมเปิดให้ ICRC ตรวจสอบ ย้ำข้อกล่าวหากัมพูชาเป็นการบิดเบือน ที่ว่าไทยได้ทำร้ายร่างกายเชลยศึกก่อนการส่งตัวกลับประเทศ ภายหลังจากมีข้อตกลงหยุดยิงระหว่างสองฝ่าย
สำหรับผลกระทบต่อประชาชน ได้แก่ รพ.สต.ยางใหญ่ อ.น้ำยืน เสียหายเพิ่ม หลังก่อนหน้านี้ไม่สามารถเข้าพื้นที่ ผู้อพยพในศูนย์พักพิงยังสูงกว่าแสนคน และจังหวัดศรีสะเกษ ขอประชาชนงดกลับภูมิลำเนาใกล้ชายแดน สถานการณ์ยังไม่ปลอดภัย
ด้านการดำเนินการและการตอบสนองของรัฐบาลไทยนั้น กระทรวงการต่างประเทศออกแถลงการณ์ชี้แจงปฏิเสธทุกข้อกล่าวหากัมพูชา หลังทำหนังสือถึง OHCHR พร้อมให้ประชาคมระหว่างประเทศตรวจสอบ เกี่ยวกับการควบคุมตัวทหารกัมพูชาจำนวน 20 นายหลังบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และได้เชิญผู้แทนจาก ICRC และ OHCHR เข้าเยี่ยมทหารกัมพูชาที่ถูกควบคุมตัวด้วยแล้ว
โดยกระทรวงการต่างประเทศเดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา ผ่านช่องทางการทูต และเวทีระหว่างประเทศที่สำคัญต่าง ๆ อาทิ การประชุม Helsinki+50 ภายใต้กรอบองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE) / การเข้าพบนาย Andries Gryffroy รองประธานวุฒิสภาเบลเยียมคนที่หนึ่ง ในฐานะประธานกลุ่มมิตรภาพรัฐสภาเบลเยียม - ไทย ที่กรุงบรัสเซลส์ /การหารือกับนาย Mattis Raustol รองอธิบดีกรมภูมิภาค กระทรวงการต่างประเทศนอร์เวย์ โดยเน้นย้ำว่าไทยใช้สิทธิการป้องกันตนเองตามกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นต้น
ขณะที่กระทรวงกลาโหมส่งจดหมายถึงกัมพูชา ยอมรับข้อเสนอให้มาเลเซีย สหรัฐฯ และจีน เข้าร่วมการประชุม GBC ในฐานะผู้สังเกตการณ์ ระหว่างวันที่ 4 - 7 ส.ค. 68 โดยทั้ง 3 ประเทศจะเข้าร่วมเฉพาะในวันที่ 7 ส.ค. 68 ซึ่งเป็นวันประชุมระดับนโยบายหลัก
ส่วนท่าทีและความเห็นของนานาชาติ ด้านเกาหลีเหนือหวังอาเซียนบรรลุความสงบสุข – ความมั่นคงที่ยั่งยืน หลังไทย – กัมพูชา บรรลุข้อตกลงหยุดยิง
BTC
ETH
DOGE
ADA
BNB
KUB