เปิดคุณสมบัติร้านค้าเข้าร่วมโครงการ "คนละครึ่งพลัส" และวิธีการลงทะเบียน – ร้านค้าไหนเข้าเกณฑ์บ้าง
เปิดคุณสมบัติร้านค้าเข้าร่วมโครงการ "คนละครึ่งพลัส" ร้านค้าไหนเข้าเกณฑ์บ้าง? เช็กวิธีการลงทะเบียนร้านค้าใหม่ - ร้านค้าคนละครึ่งเฟส 5 - ร้านค้าที่ผูกกับฟู้ดเดลิเวอรี
ภายหลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ให้ใช้วงเงินงบประมาณ 44,000 ล้านบาท จากงบกระตุ้นเศรษฐกิจ และงบกลาง ครอบคลุมผู้ได้รับสิทธิทั้งหมด 20 ล้านคน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าโดยโครงการนี้มีจุดเด่นคือ “5 พลัส” ที่ต่อยอดจากโครงการคนละครึ่งเดิม ได้แก่
- ขยายสิทธิ์ให้ผู้มีอายุ 16 ปีขึ้นไป จากเดิมที่ต้องมีอายุ 18 ปี เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนที่มีกำลังซื้อ หรือมีรายได้จากการค้าขายออนไลน์เข้าร่วมได้
- เพิ่มวงเงินสมทบของรัฐจาก 150 บาทเป็น 200 บาทต่อวัน เพื่อเพิ่มกำลังซื้อในชีวิตประจำวัน
- เพิ่มสิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่อยู่ในระบบภาษี โดยจะได้รับสิทธิ์ 2,400 บาทต่อโครงการ ขณะที่ประชาชนทั่วไปได้รับ 2,000 บาท ในสัดส่วน 50:50
- ขยายสิทธิ์ให้ผู้ประกอบการรายย่อย “ไมโครเอสเอ็มอี” และวิสาหกิจชุมชน ที่มีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี เข้าร่วมได้เป็นครั้งแรก
- พัฒนาและยกระดับทักษะ (Upskill/Reskill) ให้กับพ่อค้าแม่ค้า ผ่านการอบรมด้านเทคโนโลยี เช่น การใช้ AI เพื่อลดต้นทุน เพิ่มยอดขาย และต่อยอดธุรกิจ
สำหรับการใช้จ่าย ภาครัฐสนับสนุนเงินร่วมจ่ายค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้า และบริการที่กำหนด ให้แก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายจำนวนไม่เกิน 20 ล้านคน ในอัตราร้อยละ 50 ทั้งนี้ ไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อวัน แต่ไม่เกินจำนวนวงเงินสิทธิที่กำหนด โดยประชาชนผู้ยื่นแบบ ภ.ง.ด. 90 ภ.ง.ด. 91 หรือ ภ.ง.ด. 95 ในปีภาษี 2567 จะได้รับวงเงินสิทธิไม่เกิน 2,400 บาทต่อคน และประชาชนทั่วไปจะได้รับวงเงินสิทธิไม่เกิน 2,000 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาใช้จ่ายของโครงการฯ ซึ่งประชาชนกลุ่มเป้าหมายสามารถใช้สิทธิในโครงการฯ ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เพื่อซื้ออาหาร เครื่องดื่ม สินค้า และบริการที่กำหนดจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ หรือซื้ออาหารหรือเครื่องดื่มจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ผ่านผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร (Food Delivery Platform) ที่ได้รับอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการฯ โดยรับชำระเงินผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ซึ่งกระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางจะดำเนินการโอนเงินในส่วนที่ภาครัฐร่วมจ่ายให้แก่ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ภายในระยะเวลาที่กำหนดต่อไป
คุณสมบัติร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ คนละครึ่งพลัส
1.เป็นผู้ประกอบการร้านค้าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป ที่มีสัญชาติไทย (ผู้ประกอบการร้านค้าฯ) ดังนี้
- ผู้ประกอบการที่ไม่ใช่นิติบุคคล หรือ
- ร้านค้าธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านค้าธงฟ้าฯ) ที่ไม่ใช่นิติบุคคล เว้นแต่เป็นร้านค้าธงฟ้าฯ ของสหกรณ์ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หรือ
- ร้านค้าของกองทุนหมู่บ้านหรือกองทุนชุมชนเมืองตามพระราชบัญญัติกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ. 2547 (พ.ร.บ. กองทุนหมู่บ้านฯ) หรือ
- ร้านค้าของวิสาหกิจชุมชนตามพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (พ.ร.บ. ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนฯ)
ทั้งนี้ ต้องไม่เป็นร้านค้าที่มีลักษณะเป็นร้านสะดวกซื้อที่เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ และต้องมีการประกอบการที่สามารถตรวจสอบได้
2.เป็นผู้ประกอบการบริการนวด สปา ทำเล็บ ทำผม ที่มีสัญชาติไทย (ผู้ประกอบการบริการฯ) ดังนี้
- ผู้ประกอบการบริการที่ไม่ใช่นิติบุคคล หรือ
- ผู้ประกอบการบริการของกองทุนหมู่บ้านหรือกองทุนชุมชนเมือง ตาม พ.ร.บ. กองทุนหมู่บ้านฯ หรือ
- ผู้ประกอบการบริการของวิสาหกิจชุมชนตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนฯ
ทั้งนี้ ต้องมีสถานประกอบการเป็นหลักแหล่งและตรวจสอบได้ และกรณีเป็นผู้ประกอบการบริการนวด สปา จะต้องได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย
3.เป็นผู้ประกอบการด้านขนส่งสาธารณะ ที่มีสัญชาติไทยและไม่ใช่นิติบุคคล (ผู้ประกอบการด้านขนส่งสาธารณะฯ) ดังนี้
- ผู้ประกอบการประเภทรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน (TAXI - METER) รถตู้โดยสารประจำทางที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย รถยนต์สามล้อสาธารณะ รถสองแถวรับจ้าง และรถจักรยานยนต์สาธารณะ ทั้งนี้ ผู้ขับขี่ต้องมีใบขับขี่รถสาธารณะที่ถูกต้องตามกฎหมาย
- ผู้ประกอบการรถรับจ้างขนส่งผู้โดยสารที่สามารถตรวจสอบได้ เช่น สามล้อถีบ เป็นต้น
4.เป็นผู้ประกอบการด้านขนส่งมวลชนสาธารณะ ได้แก่ รถไฟฟ้าในเขตเมือง รถไฟ รถโดยสารประจำทางสาธารณะ และเรือโดยสารสาธารณะ (ผู้ประกอบการด้านขนส่งมวลชนสาธารณะฯ)
5.เป็นนิติบุคคลขนาดเล็ก เฉพาะที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามมาตรา 68 และงบการเงินตามมาตรา 69 แห่งประมวลรัษฎากร (ภ.ง.ด. 50) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี 2567 ซึ่งขายอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป หรือให้บริการนวด สปา ทำเล็บ ทำผม และให้บริการขนส่งสาธารณะ โดยมีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาท ตามฐานข้อมูลของกรมสรรพากร ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 ทั้งนี้ ผู้ให้บริการนวด สปา หรือผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะจะต้องได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย
6.ร้านค้าจะต้องไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในโครงการของรัฐ ได้แก่
- โครงการคนละครึ่ง
- โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2
- โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3
- โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4
- โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5
7.ประเภทสินค้าและบริการ อาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป บริการนวด สปา ทำเล็บ ทำผม และบริการขนส่งสาธารณะ โดยไม่รวมถึงสินค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ บัตรกำนัล บัตรเงินสด และบริการรูปแบบอื่นๆ ที่เป็นการชำระค่าสินค้าหรือบริการล่วงหน้า ทั้งนี้การกำหนดเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงรายการสินค้าและบริการของโครงการฯให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้กำหนด
ขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัสสำหรับร้านค้าแต่ละประเภท
ประเภทร้านค้าใหม่
สมัครเข้าร่วมโครงการ ณ จุดตั้งบูธกระทรวงมหาดไทยร่วมกับธนาคารกรุงไทย หรือ ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. - 19 ธ.ค. 68
1.มีบัญชีธนาคารกรุงไทย
2.สมัครเป็นร้านค้าถุงเงินผ่าน www.ถุงเงินกรุงไทย.com และดาวน์โหลด/อัปเดตแอปฯ ถุงเงินเป็นเวอร์ชันล่าสุด
3.ตรวจสอบประเภทกิจการและดาวน์โหลดแบบฟอร์มใบสมัคร ไปยื่นสมัครกับหน่วยงาน
4.นำเอกสารที่ได้รับการยืนยันแล้ว มายื่นสมัครเข้าร่วมโครงการ ณ จุดให้บริการ
5.ร้านค้าที่ผ่านการอนุมัติจะได้ SMS และการแจ้งเตือนผ่านแอปฯ ถุงเงิน
6.เมื่อผ่านเข้าร่วมโครงการ แบนเนอร์คนละครึ่ง พลัสจะปรากฏบนแอปฯ ถุงเงิน
7.กดยอมรับข้อตกลงและเงื่องไขโครงการ
8.รับชำระค่าสินค้าและบริการจากประชาชน
9.ตรวจสอบประวัติการรับเงิน บนแอปฯ ถุงเงิน
หมายเหตุ: ร้านค้าบุคคลธรรมดาหรือผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชนยื่น แบบฟอร์มการสมัครร้านค้าสำหรับกระทรวงมหาดไทย,ร้านค้านิติบุคคลรายย่อยหรือธุรกิจเฉพาะยื่น แบบฟอร์มการสมัครร้านค้าสำหรับธนาคารกรุงไทย
ร้านค้าคนละครึ่งเฟส 5 (ปี 2565) ผ่านเกณฑ์
1.ดาวน์โหลด/อัปเดตแอปฯ ถุงเงินให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
2.ร้านค้าที่ผ่านการอนุมัติจะได้การแจ้งเตือนผ่านแอปฯ ถุงเงิน
3.เมื่อผ่านเข้าร่วมโครงการ แบนเนอร์คนละครึ่ง พลัสจะปรากฏบนแอปฯ ถุงเงิน
4.กดยอมรับเงื่อนไขและข้อตกลงของโครงการ
5.รับชำระค่าสินค้าและบริการจากประชาชน
6.ตรวจสอบประวัติการรับเงินบนแอปฯ ถุงเงิน
ร้านค้าที่ผูกกับแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี (Food Delivery Platform)
1.ดาวน์โหลด/อัปเดตแอปฯ ถุงเงินให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
2.ร้านค้าได้รับการอนุมัติแล้ว ผูกกับแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีได้ ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. - 31 ธ.ค. 68
3.กดแบนเนอร์ ‘โครงการฟู้ดเดลิเวอรี’ บนแอปฯ ถุงเงิน เพื่อยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไข
4.เลือกผูกแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีที่ต้องการ
5.รับชำระค่าอาหาร/เครื่องดื่มจากประชาชน
6.แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี จัดหาไรเดอร์ไปยังร้านค้า
7.ไรเดอร์จัดส่งอาหาร/เครื่องดื่ม
8.ตรวจสอบประวัติการรับเงินบนแอปฯ ถุงเงิน
BTC
ETH
DOGE
ADA
BNB
KUB