“คลัง” เปิดแพ็กเกจกระตุ้นท่องเที่ยว ลดหย่อนภาษีสูงสุด 2 หมื่นบาท – เมืองรองหักได้ 1.5 เท่า
“เอกนิติ” รองนายกฯ–รมว.คลัง เผยชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวไทย หลังตัวเลข 8 เดือนแรกติดลบ 8% เตรียมเสนอ ครม. อังคารหน้า เปิดสิทธิลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวถึง 20,000 บาท เมืองรองหักได้ 1.5 เท่า
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจเสร็จสิ้น ว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจวันนี้ ได้มีการนำเสนอ มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว หลังการท่องเที่ยวไทยในช่วง 8 เดือนแรกติดลบประมาณ 8% ซึ่งได้รับความเห็นที่ดีอย่างมากในที่ประชุม ก่อนที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุมของคณะรัฐมนตรีในวันอังคารหน้า โดยมีรายละเอียดดังนี้
ส่วนของประชาชน รัฐบาลจะให้นำค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวมาหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 20,000 บาท เริ่ม 29 ต.ค. - 15 ธ.ค. 68 เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวในเมืองรองจะสามารถนำมาหักและลดหย่อนภาษีได้ 1.5 เท่า เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวและรายจ่ายให้เมืองรอง ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อเสนอจากภาคเอกชน ว่าจะให้นิติบุคคล ที่มีการนำพนักงานไปจัดสัมมนาท่องเที่ยว สามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักลดหย่อนภาษีได้ด้วยหรือไม่
ส่วนสำหรับภาครัฐ จะมีการเร่งรัดให้หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ จัดสัมมนาเร็วขึ้น เป็นช่วงไตรมาสหนึ่งของปีงบประมาณหรือไตรมาสที่ 4 ของปีปฏิทิน จากเดิมที่ส่วนราชการจะมีการจัดสัมมนาในช่วงไตรมาส สุดท้ายของปีงบประมาณ คือ เดือน ก.ค.-ก.ย. ซึ่งงบประมาณในส่วนนี้ จะมีอยู่ราว 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็น
- ส่วนราชการกว่า 3,000 ล้านบาท
- รัฐวิสาหกิจอีกกว่า 3,000 ล้านบาท
และยังรวมถึงงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่มีงบสำหรับการจัดสัมมนาด้วย
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการ สำหรับผู้ประกอบการโรงแรมและที่พัก นำค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงซ่อมแซมและพัฒนาธุรกิจภายในเดือน มี.ค. 69 มาหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า เช่น ติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ เพื่อให้เกิดพลังงานสะอาดประหยัดพลังงานและประหยัดค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการ หรือ ติดตั้งระบบบ่อบำบัดน้ำเสีย เพื่อดูแลสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
นายเอกนิติ ยังกล่าวอีกว่า ที่ประชุมโดยกระทรวงการคลัง และกรมสรรพาสามิต ได้มีการพูดถึงการลดภาษีของสถานบริการต่างๆ ในช่วงนี้ จาก 10% เป็น 5% โดยจะประสานกับกระทรวงมหาดไทย เนื่องจากสถานบริการของกระทรวงมหาดไทย และกรมสรรพสามิตยังไม่เชื่อมโยงกัน ดังนั้นจะร่วมมือกันพิจารณาขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการที่ยังไม่ถูกต้อง และไม่ได้สิทธิประโยชน์เหล่านี้ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ไปพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร เพื่อให้เข้าระบบอย่างถูกต้อง โดยไม่ต้องมาแอบเปิด เพื่อจะได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีด้วย ทั้งหมดนี้จะเป็นการกระตุ้นเกิดการค้าต่างๆ ให้เป็นไปอย่างคึกคัก รวมเป็นมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว เป็นแพ็จเกจที่จะเกิดขึ้น และใช้ได้จนถึงเดือนมีนาคม 2569
ส่วนของภาครัฐ จะมีการตั้งเป้าการเบิกจ่ายงบประมาณของปี 2569 ให้เร็วขึ้น โดย กำหนดให้จะต้องเบิกจ่ายงบประมาณ ให้ได้มากกว่า 93% และในส่วนของงบลงทุนจะต้องเบิกจ่ายไม่น้อยกว่า 75% หลังจากในปีงบประมาณ 2568 เบิกจ่ายงบลงทุนได้เพียง 65% ของงบลงทุนทั้งหมด ส่วนงบเหลื่อมปี ที่มีจำนวนกว่า 300,000 ล้านบาท ซึ่งถูกโยกมาจากงบประมาณปี 2568 จะให้เร่งเบิกจ่ายให้หมดภายในไตรมาสที่สองของปีงบประมาณ 2569 หรือเดือนมี.ค. 69
อันนี้จะช่วยเอาเงินเก่าที่ไม่มีประสิทธิภาพมาฟื้นเศรษฐกิจขณะเดียวกันงบปีใหม่ของราชการและรัฐวิสาหกิจเยอะมาก ส่วนราชการนั้นมีงบอนุมัติไปแล้ว 3.78 ล้านล้านบาท เลยมีการตั้งเป้าเบิกจ่ายและกำหนดเป็นเคพีไอ ของหน่วยราชการ ปีนี้ให้เบิกจ่ายงบประมาณต้องไม่ต่ำกว่า 93% และงบลงทุนซึ่งจะเป็นตัวสำคัญในการฟื้นเศรษฐกิจระยะยาว ต้องเบิกจ่ายไม่ต่ำกว่า 75%
สำหรับแนวทางที่จะทำให้สามารถ เร่งเบิกจ่ายงบลงทุนได้ถึง 75% ตามเป้าที่ตั้งไว้ คือ จะเร่งรัดกระบวนการจัดทำ TOR ของการจัดซื้อจัดจ้าง โดยจะกำหนดให้ชัดเจนว่าต้องแล้วเสร็จภายในเมื่อไหร่ และจะต้องโอนเงินลงสู่ภูมิภาคภายในกี่วันภายในกี่วัน เนื่องจากที่ผ่านมาความล่าช้าของการเบิกจ่ายงบลงทุนจะอยู่ที่การทำสัญญา TOR ล่าช้า
เล็งหารือ ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ กำหนดกรอบนโยบายการเงิน
นอกจากนี้นายเอกนิติ ระบุว่า เตรียมหารือร่วมกับนายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อกำหนดกรอบเป้าหมายนโยบายการเงิน สำหรับปี 2569 ว่า จะยังใช้กรอบเป้าหมายเดิมที่กำหนดอัตราเงินเฟ้อจะต้องอยู่ระหว่าง 1-3% เช่นเดียวกับในปีนี้หรือไม่
และได้แสดงความคิดเห็นต่อ อัตราเงินเฟ้อที่ติดลบอยู่ณ ขณะนี้ด้วยว่า เกิดจากราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง และราคาอาหารสดที่ลดลง แต่ส่วนตัวมองว่าเป็นผลดีกับประชาชนที่ทำให้ราคาสินค้าไม่สูงขึ้น แต่หากมองที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน หรือ Core Inflation ที่หักราคา พลังงานและอาหารสดออกแล้ว จะพบว่ายังเป็นบวกอยู่ ซึ่งทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่ติดลบ ยังไม่ได้อยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วงมากนัก ซึ่งเป็นความเห็นที่สอดคล้องกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
คืบหน้า Connect the Dots กำหนดกรอบทำงานให้เสร็จภายใน ธ.ค.
ส่วนความคืบหน้าของทีมทำงาน Connect the Dots เพื่อติดตามตรวจสอบ การเคลื่อนย้ายเงินทุน ว่า มาจากธุรกิจสีเทาหรือไม่ และมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นหรือไม่นั้น นายเอกนิติ ระบุว่า ตนเองได้กำหนดกรอบการทำงานให้เสร็จสิ้นภายในเดือนธันวาคม นี้ หลังจากที่ ได้ประชุมร่วมกับ ผู้ว่าฯ ธปท. แล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยทีมทำงาน Connect the Dots จะเป็นการร่วมมือกันของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการคลัง กลต. ปปง. และ ธปท.
เจรจาสหรัฐฯ ดึงสินค้าบางรายการออกมาจากบัญชีภาษี 19%
นอกจากนี้นายเอกนิติ ยังได้กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าทีมเจรจาภาษีสหรัฐฯ ว่า ได้มีการคุยกันนอกรอบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และภาคเอกชนแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเจรจารายละเอียดทางเทคนิค ภายใต้กรอบภาษี 19% ที่เราเคยเจรจาเสร็จสิ้นไปแล้ว
สำหรับรายละเอียดเบื้องต้น จะขอดึงสินค้าบางรายการออกมาจากบัญชีภาษี 19% เพื่อให้เสียภาษีที่น้อยลง รวมถึงการเจรจาในเรื่องของการกำหนดสัดส่วนสินค้าที่ใช้วัตถุดิบในประเทศหรือ local content ด้วย และมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการที่จะได้รับผลกระทบจากภาษีสหรัฐฯ พร้อมกับยืนยันว่าจะไม่รื้อผลการเจรจา ที่รัฐบาลชุดก่อนได้ดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว
BTC
ETH
DOGE
ADA
BNB
KUB