BYD ปัดแข่งลดราคา ชู “บริการหลังการขาย” สร้างความเชื่อมั่นตลาดไทย
BYD ปัดแข่งลดราคา ชู “บริการหลังการขาย” สร้างความเชื่อมั่นตลาดไทย แจงปมเรียกรถคืนแสนคันไม่เกี่ยวไทย ยันดูแลลูกค้าแบตเสื่อมเต็มที่
นาย เซียว ไห่ ผิง ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร สำนักประธานกลุ่มบริษัทบีวาย เปิดเผยภายหลังจากคณะผู้แทนจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสื่อมวลชนเข้าเยี่ยมชมโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า BYD ประเทศไทย โดยระบุว่า นับเป็นครั้งแรกที่โรงงานเปิดให้คณะสื่อฯ เข้าเยี่ยมชมอย่างเป็นทางการ ถือเป็นก้าวสำคัญในการสื่อสารเรื่องราวของ BYD ให้สาธารณชนได้รู้จักมากขึ้น
โดยนาย เซียว ไห่ ผิง กล่าวว่า โรงงานแห่งนี้เริ่มเดินสายการผลิตตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567 ปัจจุบันมีพนักงานกว่า 5,800 คน โดยมีผู้บริหารระดับสูงราว 40 คน และวิศวกรกว่า 300 คน ทั้งนี้ พนักงานในสายการผลิตทั้งหมดเป็นคนไทย 92% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีเพียง 80% และคาดว่าปลายปีนี้จะขยับเป็น 95% ของทั้งหมด โดยมีหัวหน้าทีมเป็นคนไทยเช่นกัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของ BYD ที่ต้องการพัฒนาและยกระดับบุคลากรไทยในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า
นาย เซียว ไห่ ผิง กล่าวต่อว่า บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะบุคลากรและความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในประเทศ ปัจจุบันมีนักศึกษากว่า 20 สถาบันเข้าฝึกงานที่ BYD และได้รับรางวัล “บริษัทดีเด่นด้านการอบรมเทคโนโลยี” จากกระทรวงศึกษาธิการเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาอีกด้วย
สำหรับความคืบหน้าในการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ (Local Content) ขณะนี้ BYD มีสัดส่วนอยู่ที่ 54% เพิ่มขึ้นจากราว 40% เมื่อปีที่ผ่านมา โดยมีซัพพลายเออร์ท้องถิ่นกว่า 35 รายที่ร่วมผลิตชิ้นส่วนให้กับโรงงาน คิดเป็นกว่า 529 รายการ บริษัทมีเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนนี้ขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมให้การอบรมและพัฒนาซัพพลายเออร์ไทยให้เติบโตไปด้วยกัน
ด้านการส่งออก นาย เซียว ไห่ ผิง เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนมีนาคมปีนี้ BYD ได้เริ่มส่งออกรถยนต์ไปยังประเทศเวียดนาม และเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้ขยายการส่งออกไปยุโรป 3 ประเทศ ได้แก่ อังกฤษ เยอรมนี และเบลเยียม โดยปีนี้มียอดส่งออกกว่า 3,300 คัน และตั้งเป้าจะขยายให้ถึง 10,000 คันภายในสิ้นปี พร้อมกันนี้ ตั้งแต่เริ่มดำเนินสายการผลิตในไทย มีกำลังการผลิตสะสมแล้วกว่า 55,000 คัน และคาดว่าทั้งปีจะผลิตได้กว่า 40,000 คัน หรือเกือบเต็มศักยภาพการผลิต โดยกำลังผลิตเฉลี่ยเดือนละ 5,000–6,000 คัน
ทั้งนี้ ปัจจุบันตลาดรถยนต์ในไทยมียอดขายรวมประมาณ 600,000 คัน โดยเป็นรถยนต์ไฟฟ้าราว 100,000 คัน หรือเพิ่มขึ้นราว 40% จากปีก่อน สะท้อนให้เห็นว่าอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่กำลังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของตลาดไทย ซึ่งยังคงรักษาสถานะการเป็นประเทศผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 10 ของโลก
อย่างไรก็ดี แม้ประเทศไทยยังคงเผชิญความท้าทายบางด้าน ทั้งในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและกำลังซื้อในประเทศ แต่ก็ถือเป็น “โอกาสทอง” ที่จะต่อยอดสู่การเป็นศูนย์กลางยานยนต์พลังงานใหม่ของภูมิภาค โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลยังคงเดินหน้ามาตรการ EV3.0 และ EV3.5 ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงยานยนต์ไฟฟ้าได้มากขึ้น
ที่ผ่านมา รัฐบาลไทยให้การสนับสนุนมาตรการ EV3.0 และ EV3.5 ได้อย่างดีมาก หากสามารถต่อยอดไปสู่ EV4.0 หรือ 4.5 จะช่วยสร้างความมั่นใจให้ทั้งนักลงทุนและผู้บริโภค พร้อมผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่แข็งแกร่งระดับโลก
ส่วนประเด็นเรื่อง “สงครามราคา” ผู้บริหาร BYD กล่าวว่า บริษัทไม่ได้มุ่งเน้นทำตลาดด้วยการลดราคาหรือแข่งขันด้านราคาเป็นหลัก เพราะเชื่อว่าการแข่งขันที่ยั่งยืนในระยะยาวต้องเกิดจาก “คุณภาพของสินค้า” และ “การบริการหลังการขาย” มากกว่าการลดราคาเพียงชั่วคราว ซึ่งการกำหนดราคาของ BYD จะพิจารณาจากต้นทุนจริงและสภาพตลาดในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งอาจมีการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและต้นทุนการผลิต แต่จะไม่ลดราคาจนกระทบต่อภาพรวมของตลาดยานยนต์ไทย
BYD ไม่ได้ตั้งใจจะลดราคามาแข่งกับใคร สิ่งที่เราทำคือสร้างมาตรฐานใหม่ให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยเราให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่ายโชว์รูมที่มีคุณภาพทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด ทั้งการทดลองขับ การบริการหลังการขาย และความมั่นใจในอะไหล่และการซ่อมบำรุง เราเชื่อว่าลูกค้าจะเลือกเราเพราะคุณภาพและบริการ ไม่ใช่เพียงเพราะราคา
ในส่วนของประเด็นเชิงลบเกี่ยวกับการเรียกรถคืน จำนวนกว่า 1 แสนคัน ผู้บริหาร BYD ชี้แจงว่า รถรุ่นดังกล่าวเป็นรุ่นปี 2015 ที่ผลิตและจำหน่ายเฉพาะในประเทศจีน ยังไม่เคยนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย จึงไม่มีผลกระทบต่อผู้บริโภคชาวไทย พร้อมย้ำว่า BYD ให้ความสำคัญสูงสุดต่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถทุกคน และยึดมั่นในความรับผิดชอบต่อสังคมและลูกค้า
ขณะเดียวกัน สำหรับกรณีแบตเตอรี่เสื่อมสภาพก่อนกำหนด บริษัทได้ดำเนินการตรวจสอบและให้การดูแลลูกค้าเป็นรายกรณีอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความมั่นใจว่า BYD จะรักษามาตรฐานคุณภาพและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในระยะยาว
BTC
ETH
DOGE
ADA
BNB
KUB