"สิทธิพล" ชี้ ปชช. แห่ลงทะเบียน "คนละครึ่งพลัส" สะท้อนข้าวยากหมากแพง
"สิทธิพล" ชมรัฐบาลรับฟังเสียงฝ่ายค้าน ทำโครงการ "คนละครึ่งพลัส" กระตุ้นเศรษฐกิจ ระยะสั้น ชี้ ปชช. แห่ลงทะเบียน สะท้อนรายได้ถดถ้อย ข้าวยากหมากแพง
นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ ให้สัมภาษณ์ถึงการลงทะเบียนในโครงการคนละครึ่งพลัสวันแรก ว่า พบว่าประชาชนให้ความสนใจกับโครงการนี้มาก มุมหนึ่งก็ต้องสะท้อนว่าประชาชนในยุคปัจจุบันมีความคาดหวังกับโครงการนี้ค่อนข้างสูงสอดรับกับ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ประชาชนอยู่ในสภาวะเข้ายากหมากแพง รายได้ถดถอยต้องการการสนับสนุนจากรัฐบาล
คิดว่าโครงการคนละครึ่งพลัสในรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตอบโจทย์ 2-3 เรื่องในระยะสั้น เป็นโครงการที่ทำได้ทันทีประชาชนคุ้นเคยกับโครงการนี้อยู่แล้วมีระบบรองรับ
ในอีกมุมหนึ่งคือเป็นโครงการที่รับฟังเสียงสะท้อนจากฝ่ายค้านและนักวิชาการ มีการปรับเงื่อนไขให้กับผู้ที่ยื่นแบบภาษีได้สิทธิ์ที่มากกว่า ทำให้ประชาชนผู้จ่ายภาษีรู้สึกว่ามีอะไรเป็นพิเศษมากกว่า แต่อย่างไรก็ตามยืนยันว่าโครงการนี้มีประสิทธิผลค่อนข้างจำกัด สิ่งที่อยากสื่อสารไปยังรัฐบาล คือ เป็นโครงการที่มุ่งกระตุ้นหรือเน้นผลระยะสั้นมาก ๆ
นายสิทธิพล กล่าวว่า "หากไปดูงานวิจัยจะพบว่าประสิทธิผลในการกระตุ้น GDP อาจไม่สูงนัก เพราะเป็นการย้ายการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนเฉย ๆ คือ เปลี่ยนไปซื้อร้านที่เข้าร่วมโครงการแทน จำนวนเงินที่ประชาชนใช้จ่ายเท่าเดิมก็จะไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจหรือการลงทุนใหม่ ๆ"
"มีงานวิจัยขนาดว่าเงิน 1 บาท ที่รัฐบาลกระตุ้นไปจะกระตุ้นได้แค่ประมาณ 30 สตางค์ ซึ่งสะท้อนผลที่มันไม่มากนัก อีกมุมหนึ่งที่ต้องบอกว่าสาเหตุที่กระตุ้นได้ไม่มาก เพราะวงเงินที่จัดสรรมาใช้เป็นวงเงินที่ย้ายมาจากเงินโครงการอื่น ๆ ไม่ใช่วงเงินโครงการใหม่" นายสิทธิพล กล่าว
นายสิทธิพล ยังฝากถึงการช่วยเหลือประชาชนในพื้นในพื้นที่ต่างจังหวัดที่อยากจะเข้าร่วมโครงการแต่ยังไม่สามารถลงทะเบียนได้ พบว่า ในต่างจังหวัดหลายที่ประชาชนต่อคิวกันตั้งแต่ตี 5 เพื่อลงทะเบียน จำกัดในการดูแลแต่ธนาคารมีประสิทธิภาพจำกัดในการดูแลบางสาขาได้แค่ 50 คิว บางสาขาได้ 100 คิว ซึ่งคนกลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มสำคัญ เพราะเป็นคนกลุ่มแรก ๆ ที่ควรได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาล แต่เขาเข้าไม่ถึงโครงการนี้
เมื่อถามว่าโครงการคนละครึ่งมีหลายเฟสแล้วรัฐบาล จะใช้บทเรียนมาอุดรอยรั่วหรือแก้ไขปัญหาได้หรือไม่ นายสิทธิพล กล่าวว่า ประเด็นสำคัญของโครงการนี้คือทำอย่างไรให้เกิดประสิทธิผลอย่างมาก แล้วจะต้องทำอย่างไรให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อเนื่องในระยะยาว
สิ่งที่รัฐบาลควรทำคือร้านค้าที่เคยเข้าระบบ แม้จะไม่มีโครงการสนับสนุนแล้วแต่ร้านมีคนรู้จักและใช้บริการต่อเนื่อง ดังนั้นรัฐบาลควรจูงใจร้านค้าเข้าโครงการให้ได้ ถ้าเป็นเช่นนี้เมื่อจบโครงการไปก็จะมีร้านค้าใหม่ ๆ ที่ประชาชนเข้าถึงได้
นอกจากนี้เรื่องภาษีของร้านค้าที่ผู้ประกอบการยังคงกังวลอยู่ว่าจะมีภาษีย้อนหลังหรือไม่ แม้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเคยพูดแล้วว่าจะไม่นำ เรื่องนี้มาดำเนินการแน่นอนแต่รัฐบาลก็ควรทำอย่างจริงจังให้ประชาชนเชื่อมั่น ถ้าทำได้ก็จะทำให้ร้านค้าเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัสมากขึ้น
ส่วนการทำโครงการนี้ของรัฐบาลจะไม่เข้าข่ายผิดเงื่อนไขMOAที่จะทำให้เกิดความนิยมทางการเมืองเพิ่มขึ้นใช่หรือไม่ นายสิทธิพล กล่าวว่า ถ้าเราเน้นผลประโยชน์ของประชาชน ไม่ว่ารัฐบาลไหนเข้ามาบริหารประเทศก็จำเป็นต้องออกนโยบาย เพื่อทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นทำให้ประชาชนที่มีความเดือดร้อนได้รับความช่วยเหลือ เป็นสิทธิ์เต็มที่ของฝ่ายบริหารที่จะดำเนินมาตรการต่าง ๆ ได้
ส่วนข้อทวงติงข้อเสนอต่าง ๆ รัฐบาลก็จำเป็นที่ต้องระมัดระวัง และทำให้และทำให้ประชาชนที่อยากเข้าถึงโครงการนี้สามารถเข้าถึงโครงการได้
นายสิทธิพล ย้ำว่า โครงการคนละครึ่งพลัสเป็นโครงการที่มีผลค่อนข้างจำกัดเป็นการช่วยเหลือเป็นการช่วยเหลือแบ่งเบาค่าครองชีพของประชาชนระยะสั้นเท่านั้นแต่ปัญหาเศรษฐกิจในวันนี้มีมากกว่านี้เยอะ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้มีโอกาสที่เศรษฐกิจจะเติบโตเพียงแค่ 0.3% คือต่ำมาก ถ้าดูครึ่งปีนี้และครึ่งปีหน้าในปี 2569 อาจจะโตรวมกันได้ประมาณ 1%
สัญญาณข้างหน้าที่อันตรายแบบนี้รัฐบาลจำเป็นต้องเตรียมมาตรการต่าง ๆ มารับมือ ไม่เช่นนั้นสถานการณ์ข้างหน้าภายใต้งบประมาณที่จำกัดเงินก็เอาไปใช้กระตุ้นระยะสั้นแล้ว ก็จะเป็นความยากของเศรษฐกิจไทย
ทั้งนี้ พรรคประชาชนทยอยทำนโยบายเรื่องเศรษฐกิจมาโดยตลอด และเชื่อว่านโยบายของพรรคประชาชนที่เตรียมไว้เป็นนโยบายที่ตอบโจทย์เป็นนโยบายที่ตอบโจทย์ระยะสั้นและระยะยาวมีวิธีการทำอย่างชัดเจน
BTC
ETH
DOGE
ADA
BNB
KUB