อัปเดต "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" เดือน พ.ย. วงเงินเท่าไร จ่ายอะไรได้บ้าง?

นายธนะโชค รุ่งธิปานนท์ รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ผู้มีสิทธิสามารถใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด ซึ่งในเดือนพฤศจิกายน 2568 จะได้รับสิทธิ ดังนี้

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 (เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)

• วงเงินซื้อสินค้า 1,150 บาท ต่อคนต่อเดือน
• วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาท ต่อคนต่อ 3 เดือน (ต.ค. - ธ.ค. 68)

• วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาท ต่อคนต่อเดือน ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า และรถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2568

เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน โดยโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ของผู้มีสิทธิ หรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท

 

วันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 

เงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุ ที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 รอบแก้ไขรายการที่โอนเงินไม่สำเร็จ ครั้งที่ 2 ในอัตรา 100 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 8 เดือน (ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ - กันยายน) ตามเดือนที่ได้รับสิทธิ โดยจะโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผู้มีสิทธิแจ้งตามหนังสือให้ความยินยอม โอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีร่วมกับบุคคลอื่นหรือบัญชีบุคคลอื่น หรือโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก

นอกจากนี้กรมบัญชีกลาง ยังรายงานผลการจ่ายเงินสวัสดิการแห่งรัฐ ที่จ่ายให้กับร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นและร้านค้าอื่น ๆ ที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ร้านก๊าซหุงต้ม ผู้ให้บริการระบบขนส่งสาธารณะ ผู้ให้บริการไฟฟ้าและน้ำประปา ซึ่งเป็นข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 - 31 ตุลาคม 2568 ดังนี้

1. สวัสดิการที่ให้เป็นวงเงิน (บัตรประจำตัวประชาชน) จำนวนเงิน (ลบ.)

1.1 วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 3,887.29 ล้านบาท

1.2 วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 199.54 ล้านบาท        

1.3 วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 164.61 ล้านบาท              

รวมจำนวนเงิน (1) 4,251.34 ล้านบาท

2. สวัสดิการที่ให้ผ่านระบบพร้อมเพย์ (บัตรประจำตัวประชาชน) จำนวนเงิน (ลบ.) 

2.1 มาตรการเงินเพิ่มเบี้ยความพิการ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563  จำนวน 263.92  ล้านบาท       

รวมจำนวนเงิน (2)  263.92 ล้านบาท          

 

3. สวัสดิการที่จ่ายตรงผู้ให้บริการ จำนวนเงิน (ลบ.)

3.1 มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า 208.31  ล้านบาท                   

3.2 มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา 26.48  ล้านบาท                        

รวมจำนวนเงิน (3) 234.80  ล้านบาท                     

รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,2 และ 3 จำนวน 4,750.05 ล้านบาท           

“ทั้งนี้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 0 2109 2345 หรือ Call Center กรมบัญชีกลาง 0 2270 6400 ในวัน เวลาราชการ” โฆษกกรมบัญชีกลางกล่าว