ตลาดคริปโทฯ ทิศทางขาลง พิษ LUNA-UST ล่มสลาย “เฟด” จ่อซ้ำเติม เร่งขึ้นดอกเบี้ย
ตลาดสกุลเงินดิจิทัล แนวโน้มทิศทางขาลง หลังเจอพิษ LUNA-UST ล่มสลาย และอาจอยู่ในทิศทางขาลงยาวต่อเนื่อง 2-3 เดือนข้างหน้านี้ หาก เฟด เร่งขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย
บทเรียนคริปโทฯ “LUNA” ล่มสลาย สะเทือนวงการนักเทรด ก่อนคืนชีพ “LUNA 2.0”
ตลท.เข้าลงทุน ADDX ศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์ดิจิทัลสิงคโปร์ นั่งบอร์ดร่วม "เทมาเส็ก"
นายปรมินทร์ อินโสม ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ Satang ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย เปิดเผยว่า หากจะดูทิศทางของตลาดว่าขึ้นหรือลงนั้นให้ดูที่ 3 ปัจจัยหลักคือ ดอกเบี้ย เงินเฟ้อ และ ตัวเลขการจ้างงาน ซึ่งตอนนี้พูดได้ว่าครบทุกองค์ประกอบของตลาดขาลง คือ ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด (FED) จะยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.5% อีกอย่างน้อย 2 ครั้งในปี 2565 (มิถุนายน, กรกฏาคม) ซึ่งจะทำให้นักลงทุนลดปริมาณการซื้อสินทรัพย์
โดยการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ เฟด จะมีแนวโน้มไปจนถึงช่วง 3-4 เดือนข้างหน้านี้ ผลักดันดอกเบี้ยไปสู่ระดับ 2.5-3.0% ในปีนี้ เพื่อต้อสู้กับปัญหาเงินเฟ้อ เพราะอัตราเงินเฟ้อที่คำนวณจากดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer price index) ยังอยู่ที่ 8.3% ซึ่งนับว่าสูงมาก ส่วนตัวเลขการจ้างงานที่ไม่รวมภาคเกษตร (Non-Farm payroll) ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ถ้ามากกว่า 200,000 คน ต่อเดือนอยู่เสมอในปีนี้ จะทำให้ เฟด สามารถปรับขึ้นดอกเบี้ยได้อย่างไร้กังวล เพราะมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯยังมีความแข็งแกร่งมากพอ และยอมให้ตลาดสินทรัพย์ต่าง ๆ อยู่ในขาลง
ทั้งนี้จากสภาพตลาดขณะนี้รวมไปถึงความเชื่อมั่นทางจิตวิทยาที่ลดลง เกิดจากการล่มสลายของ LUNA-UST ส่งผลให้มูลค่าตลาดคริปโทฯ ลดลงเหลือ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ จากที่เคยอยู่จุดสูงสุด 2.9 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน 2564
ในขณะที่มีปริมาณการซื้อขาย สเตเบิลคอยน์ (Stablecoin) ทั้งหมดในตอนนี้ อยู่ที่ 69.26 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเท่ากับ 87.36% ของปริมาณการซื้อขายรวมในตลาดคริปโทฯใน 24 ชั่วโมง (26 พ.ค 65) [อ้างอิง: coinmarketcap] อาจมองได้ว่านักลงทุนกำลังใช้ สเตเบิลคอยน์ กลุ่มที่มีสินทรัพย์หนุนหลังเป็นที่พักเงิน
“ถ้าจะมองหา Safe-Haven ของการลงทุนขณะนี้ ก็อาจเป็นกลุ่ม Stablecoin อย่าง USDC USDT BUSD ซึ่งช่วงนี้ค่าเงิน USD กำลังแข็งอยู่เมื่อเทียบกับ Bitcoin หรือเมื่อเทียบกับค่าเงิน Thai Baht ซึ่งอ่อนลง หรือ GOLD stablecoin ก็น่าสนใจ อย่าง PAXO GOLD (PAXG) เพราะทองคำ จะกลับมาขึ้น หรือไม่ลงต่อแบบหลายเดือนที่ผ่านมาแล้ว ทองคำขณะนี้ ยืนเหนือ 1,780 ดอลลาร์/ออนซ์ ได้ แล้วกลับมาอยู่ที่ 1,850 ดอลลาร์/ออนซ์ เป้าหมายต่อไปที่ 1,900-1,925 ดอลลาร์/ออนซ์ เป็นไปได้ง่ายทิศทางไป 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์ กลับขึ้นไปไม่ยาก เพราะเงินเฟ้อยังสูงอยู่ทั่วโลก” ผู้ก่อตั้ง Satang กล่าว
ด้าน นายสรัล ศิริพันธ์โนน ซีอีโอ บริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ระบุว่า ตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่ จะกลับมาเมื่อไรนั้นค่อนข้างจะตอบได้ยาก เพราะ เฟด ยังคงขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ซึ่งถ้าในกลุ่มนักลงทุนที่กำลังรอซื้อควรจะรออีกหน่อย เนื่องจากตลาดยังเป็นขาลงอีกในระยะ 2 – 3 เดือนข้างหน้า และตลาดอาจค่อนข้างลงแบบซิกแซ็ก ไม่ลงแบบทิ้งดิ่งในครั้งเดียวนักลงทุนต้องระมัดระวังให้มาก ส่วนในประเด็นของการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสําหรับการโอนคริปโทเคอร์เรนซี หรือ โทเคนดิจิทัลจนถึงสิ้นปี 2566 ของไทยนั้นมองว่าเป็นเรื่องที่ดี น่าจะช่วยให้ประเทศมีเวลาได้ลองอะไรมากขึ้น แต่อยากเสนอว่ารัฐฯควรจะยกเว้นการเก็บภาษีจาการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลที่ถือครองเกิน 1 ปี เหมือนเช่นในประเทศเยอรมันนี