ค่าเงินบาทเปิดตลาด "แกว่งแคบ ๆ" จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐศุกร์นี้
ค่าเงินบาท เคลื่อนไหวช่วงแคบ ๆ ในช่วงเช้า เปิดตลาดแทบไม่ขยับ นักลงทุนรอตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันศุกร์นี้ แม้เจ้าหน้าที่ย้ำเร่งขึ้นดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้อ
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 37.41 บาทต่อดอลลาร์ ทรงตัวจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 37.40 บาทต่อดอลลาร์ กรอบเงินบาทวันนี้ยังแกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ ที่ระดับ 37.20-37.40 บาท/ดอลลาร์
ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแกว่งตัว เนื่องจากนักลงทุนรอประเมนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอีกครั้งในวันศุกร์นี้ แม้ล่าสุดการจ้างงานภาคเอกชนและดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อปรับตัวดี จะช่วยเสริมมุมมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งและช่วนหนุนเฟดขึ้นดอกเบี้ย
[อัพเดท]ราคาทองวันนี้ ปิดตลาดลด 50 บาท "ต่างประเทศลง-บาทแข็ง"
คลังจับมือแบงก์ชาติ "ดูแลความเคลื่อนไหวตลาดเงินตลาดทุนใกล้ชิด"
ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นในรอบ 5 วัน หลังตลาดคาดเฟดไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ท่าทีของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดที่ต่างยังคงสนับสนุนการเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อคุมปัญหาเงินเฟ้อ และรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุดที่ออกมาดีกว่าคาด ทั้งยอดการจ้างงานภาคเอกชนโดย ADP ในเดือนกันยายน ที่ระดับ 208,000 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า รวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ (ISM Services PMI) เดือนกันยายน ที่ระดับ 56.7 จุด สะท้อนการขยายตัวต่อเนื่องของภาคการบริการ ได้กลับมากดดันให้ผู้เล่นในตลาดการเงินสหรัฐฯ ทยอยขายทำกำไรการรีบาวด์อย่างรวดเร็วของสินทรัพย์เสี่ยงในช่วงที่ผ่านมา
ส่วนในฝั่งตลาดบอนด์ ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดที่ยังคงเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อคุมปัญหาเงินเฟ้อ กอปรกับรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดีกว่าคาด ได้หนุนให้ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นอีกครั้ง สู่ระดับ 3.75% สอดคล้องกับมุมมองของเราที่คาดว่า บอนด์ยีลด์ระยะยาวยังมีความเสี่ยงที่จะปรับตัวขึ้นได้ หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ได้แย่ลงชัดเจน
ทั้งนี้ การปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ระยะยาวที่ผ่านมา ทำให้บอนด์ระยะยาวมีความน่าสนใจมากขึ้นและคาดว่านักลงทุนในตลาดอาจทยอยเพิ่มสถานะการถือครองบอนด์ระยะยาวในจังหวะที่ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้นเพื่อเตรียมปรับพอร์ตการลงทุนรับมือกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่อาจชะลอตัวลงมากขึ้นและเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย
เงินดอลลาร์พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY Index) ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 111.2 จุด หนุนโดยท่าทีของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดที่ยังคงสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อคุมปัญหาเงินเฟ้อ ขณะเดียวกันความผันผวนในตลาดการเงินที่ยังอยู่ในระดับสูงทำให้นักลงทุนผู้ยังคงถือเงินดอลลาร์เพื่อหลบความผันผวน
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มค่าเงินบาท ประเมินว่า เงินบาทอาจเริ่มแกว่งตัว Sideways ใกล้ระดับ 37.30 บาทต่อดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังตัวมากขึ้น หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มออกมาดีกว่าคาด โดยเฉพาะข้อมูลในฝั่งตลาดแรงงาน
แต่นักลงทุนยังไม่รีบปรับสถานะถือครองก่อนที่จะรับรู้ ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) รวมถึงการเติบโตของค่าจ้าง (Wage Growth) ในวันศุกร์นี้
ในช่วงนี้แรงกดดันฝั่งอ่อนค่าต่อเงินบาทอาจเริ่มลดลงได้บ้าง หากนักลงทุนต่างชาติเริ่มทยอยกลับเข้ามาซื้อสินทรัพย์ไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในฝั่งหุ้น หลังจากหุ้นไทยได้ปรับตัวลงในช่วงที่ผ่านมา จน Forward P/E ลดลงเหลือ 15 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา ทำให้หุ้นไทยมีความน่าสนใจมากขึ้น ในแง่ของระดับราคาและแนวโน้มผลประกอบการที่อาจดีขึ้นตามโมเมนตัมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ส่วนในฝั่งตลาดพันธบัตร เริ่มเห็นแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาบ้าง โดยเฉพาะในพันธบัตรระยะยาว หลังบอนด์ยีลด์ระยะยาวได้ปรับตัวสูงขึ้น