ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาด"แข็งค่า" แต่ตลาดเงียบ นักลงทุนหยุดซื้อขาย
ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 34.65 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่า เมื่อเทียบกับปิดตลาดเมื่อวานที่ 34.81 บาท/ดอลลาร์ มองกรอบวันนี้ที่ ระดับ 34.45 - 34.75 บาท/ดอลลาร์
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่าตลาดนิวยอร์คหยุดทำการวันจันทร์ที่ 26 ธ.ค.เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส โดยดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลหลักๆ โดยได้แรงหนุนจากการตัดสินใจของรัฐบาลจีนที่จะเปิดพรมแดน และยกเลิกมาตรการกักตัวผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 2566 หลังจากที่มีการบังคับใช้มานาน 3 ปีเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19
ค่าเงินบาทเช้านี้ เปิดตลาดแข็งค่า เศรษฐกิจสหรัฐชะลอ กดค่าเงินดอลลาร์
ราคาทองวันนี้ บวก 50 บาท ตลาดเงียบ-นักลงทุนชะลอซื้อขาย
การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในรอบ 5 วัน
แนะนำผู้นำเข้าควรซื้อเงินตราต่างประเทศเพื่อป้องกันความเสี่ยง และผู้ส่งออกควรขายเงินตราต่างประเทศที่ระดับเหนือ 35.00 บาท/ดอลลาร์
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 34.45-35.20 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 34.76 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 34.63-35.04 บาท/ดอลลาร์
เงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินยูโรและเยนในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเงินเยนแตะระดับสูงสุดรอบ 4 เดือน และเป็นการแข็งค่ามากที่สุดในวันเดียวในรอบ 24 ปี หลังธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ)มีมติคงดอกเบี้ยไว้ที่ -0.1% และผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีไว้ที่ราว 0% แต่ช็อคตลาดด้วยการปรับนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Yield Curve Control) ด้วยการปล่อยให้ผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวเคลื่อนไหวจากเป้าหมาย 0% ได้ในกรอบ -0.50% ถึง 0.50% จากเดิมที่ -0.25% ถึง 0.25%
ตลาดคาดว่านักลงทุนญี่ปุ่นอาจขายพันธบัตรโลกและดึงเงินกลับประเทศ กระชากอัตราผลตอบแทนทั่วโลกสูงขึ้นแม้ผู้ว่าการบีโอเจแถลงในเวลาต่อมาว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ใช่การขึ้นอัตราดอกเบี้ยแต่มีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับสมดุลการทำงานของตลาดพันธบัตร และย้ำว่าเร็วเกินไปที่จะหารือเรื่องการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ตลาดตีความว่าเป็นสัญญาณการปรับนโยบายที่เร็วเกินคาด ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นและพันธบัตรไทยสุทธิ 1,051 ล้านบาท และ 25,584 ล้านบาท ตามลำดับ
สำหรับสถานการณ์ในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า การซื้อขายจะเป็นไปอย่างเงียบเหงาขณะที่หลายตลาดหลักปิดทำการเนื่องในเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ รวมถึงการปิดสถานะการลงทุนสำหรับปีนี้
อย่างไรก็ดี หากมีข่าวสำคัญเข้ามากระทบอาจทำให้ตลาดผันผวนเกินจริงเนื่องจากสภาพคล่องต่ำ แต่เมื่อมองไปข้างหน้า อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯอยู่ในทิศทางขาลง แต่ภาวะตลาดแรงงานที่ตึงตัวอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)กังวลนานกว่าที่ผู้ร่วมตลาดประเมินไว้ และเราคาดว่าอาจเป็นประเด็นฉุดรั้งบรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงในช่วงต้นปี 66 ซึ่งจะหนุนดอลลาร์และเยนแข็งค่าขึ้นได้
สำหรับปัจจัยในประเทศ คาดว่าไทยมีแนวโน้มเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนพ.ย. ส่วนกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายอาจไร้ทิศทางช่วงปลายปี ทางด้านธปท.ระบุว่าต้องทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่อไปอีกระยะ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์เศรษฐกิจในปี 66 โดยประเมินว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกจะไม่กระทบต่อการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว เพราะ 2 ใน 3 ของนักทองเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยขณะนี้เป็นนักท่องเที่ยวจากเอเชีย ซึ่งจะยังมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างสดใสในปีหน้า