รมช.พาณิชย์ ชวน SME ขอเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำกับ 9 สถาบันการเงิน พร้อมแนะหลักทรัพย์ค้ำประกัน
รมช.พาณิชย์ "นภินทร" ชวน SME ขอเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำกับสถาบันการเงิน 9 แห่ง พร้อมแนะนำหลักทรัพย์ประเมินราคาค้ำประกัน พร้อม MOU 5 พันธมิตร ยกระดับงานบริการให้เร็วยิ่งขึ้น
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ เผยว่า การจัดงานมหกรรมทรัพย์หลักประกันทางธุรกิจเมื่อ 27-28 มีนาคม ที่ผ่านมา ที่กระทรวงพาณิชย์ได้ช่วยสนับสนุนและเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SME สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนแก่ SME ภายใต้ พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. 2558 ซึ่งเป็นกฎหมายที่กำหนดให้ผู้ประกอบการสามารถนำทรัพย์สินที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ หรือทรัพย์สินที่ใช้ประกอบธุรกิจอยู่แล้วมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการชำระหนี้ โดยทรัพย์หลักประกันทางธุรกิจที่นำมาประเมินได้
เช่น เครื่องจักรอุตสาหกรรม รถยนต์ ไม้ยืนต้น โดยไม่ต้องส่งมอบกรรมสิทธิ์ สิทธิเรียกร้องจากสัญญาเช่า สิทธิในเครื่องหมายทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น โดยสถาบันการเงินที่ร่วมเป็นพันธมิตรได้คิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ
นอกจากนี้ ยังได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) 5 หน่วยงาน ระหว่าง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมเจ้าท่า กรมโรงงานอุตสาหกรรม และกรมการขนส่งทางบก เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับทรัพย์มีทะเบียนใ ห้สามารถตรวจสอบข้อมูลการติดหลักประกันได้จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และหน่วยงานที่ร่วมลงนาม MOU ได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ซึ่งภายในงานมีการจัดบูธให้ความรู้เกี่ยวกับทรัพย์หลักประกันของหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ กรมทรัพย์สินทางปัญญา (เครื่องหมายการค้า ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร) กรมเจ้าท่า (เรือ) กรมโรงงานอุตสาหกรรม (เครื่องจักร) กรมการขนส่งทางบก (รถยนต์) และหน่วยงานพันธมิตรอื่นๆ มาร่วมให้ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์หลักประกันประเภทไม้ยืนต้น ได้แก่ กรมป่าไม้ กรมส่งเสริมการเกษตร สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) (BEDO) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (บูธไม้ยืนต้น) พร้อมด้วยการให้สินเชื่อเพื่อธุรกิจด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษจาก 10 สถาบันการเงินชั้นนำได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารไทยเครดิต บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) ธนาคารออมสิน ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) รวมถึงการให้คำปรึกษาแนะนำด้านการประเมินราคาและการเจรจาจับคู่ธุรกิจ
การจัดงานนี้ สอดคล้องกับนโยบายเร่งด่วน 7 ด้าน ของกระทรวงพาณิชย์ หนึ่งในนั้นคือ เร่งลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส เน้นสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการ SME และผลักดันการเพิ่มสัดส่วน GDP SME ของไทยจาก 35.2% เป็น 40% ภายในปี 2570 จึงได้มอบหมาย ให้ทุกหน่วยงานในสังกัดระทรวงพาณิชย์ช่วยกันผลักดันและขับเคลื่อนการปฏิบัติราชการอย่างเต็มที่เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการ SME ให้เร็วที่สุด กระทรวงพาณิชย์เล็งเห็นถึงความสำคัญในการร่วมกันบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน
รู้จัก “ลาบูบู้” อาร์ตทอยฟันแหลม แรร์ไอเทมที่หลายคนตามหา
อัปเดต! “สงกรานต์” หยุดกี่วัน เริ่มวันไหน เช็กเลยวันหยุดราชการ-ธนาคาร
ชวนรู้จัก “เมียวดี” พื้นที่ค้าชายแดนไทย-เมียนมา หลังกลุ่มชาติพันธุ์ยึด