บริษัทประกัน แห่ ยืนยัน รับประกัน สตง.แห่งใหม่ ไม่กระทบฐานะทางการเงิน

จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศพม่าที่ส่งผลให้ อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ (อาคาร สตง.) ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้างถล่มลงมา บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะบริษัทโฮลดิ้งส์ ที่ถือหุ้นในทิพยประกันภัย 99.05% ชี้แจงกรณีการรับประกันภัย อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ (สตง.แห่งใหม่) ไม่ส่งผลกระทบต่อฐานะการเงินของบริษัท โดย ทิพยประกันภัย คือหนึ่งในสี่ ของบริษัทผู้รับประกันภัยร่วม มีสัดส่วน 40%  โดย อาคาร สตง. มีทุนประกันภัย 3 หมวด คือ 

 

มูลค่างานก่อสร้างตามสัญญา 2,136 ล้านบาท ทรัพย์สินเดิมของผู้ว่าจ้าง 5 ล้านบาท และความรับผิดชอบต่อบุคคลภายอก  30 ล้านบาทต่อครั้ง และ 100 ล้านบาทตลอดระยะเวลาเอาประกันภัย โดยมีเงื่อนไขความรับผิดส่วนแรกที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบเอง 20% ของความเสียหายสำหรับแต่ละเหตุการณ์ 

สำหรับ สัดส่วน 40% ทิพยประกันภัย ได้ทำประกันภัยต่อ 95% ของทุนเอาประกันภัยกับบริษัทประกันภัยต่อระดับโลกที่มี Credit Rating ไม่ต่ำกว่า A พร้อมทั้งจัดทำสัญญาประกันภัยต่อสำหรับความเสียหายส่วนเกินจากภัยพิบัติ (XOL)

ดังนั้น บริษัทฯ ยังคงมีความมั่นคงทางการเงิน และ ไม่ได้รับผลกระทบแม้มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนในกรณีนี้

อินทรประกันภัย

อินทรประกันภัย ยืนยัน ไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสถานะทางการเงิน

ด้าน นายบรรจง ชินธนะศิริ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินทรประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ IN-SURE เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ส่งผลให้อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ซึ่งเป็นอาคารสูง 30 ชั้น และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ณ ถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร พังถล่มลงมา และมีรายงานผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และมีผู้สูญหายจำนวนมาก บริษัทฯ มีการรับประกันภัยการก่อสร้างอาคารดังกล่าว ร่วมกับบริษัทประกันวินาศภัยอื่น ๆ โดยบริษัทฯ มีสัดส่วนการรับประกันภัยอยู่ที่  25% ของมูลค่าความคุ้มครองตามสัญญาประกันภัย

บริษัทฯ ขอยืนยันว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสถานะทางการเงิน หรือการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งมีการดำรงเงินกองทุนที่เพียงพอ และแข็งแกร่ง เนื่องจากบริษัทฯ ได้มีการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านการรับประกันภัย โดยจัดทำประกันภัยต่อกับบริษัทผู้รับประกันภัยต่อที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ตามนโยบายการประกันภัยต่อของบริษัท พร้อมทั้งเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ เพื่อบรรเทาความเสียหาย และสนับสนุนให้ได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ ประกอบกับการปฏิบัติงานอย่างรอบคอบ และเป็นระบบ ซึ่งสอดคล้องกับหลักธรรมาภิบาลที่บริษัทฯ ยึดถือมาโดยตลอด

กรุงเทพประกันภัย

กรุงเทพประกันภัย ยืนยันว่าไม่ส่งผลกระทบต่อฐานะทางการเงิน

กรุงเทพประกันภัย ระบุ จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ขอยืนยันว่าไม่ส่งผลกระทบต่อฐานะทางการเงิน เนื่องจากมีการจัดสรรประกันภัยต่อมากกว่า 95% และยังคงรักษาอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินในระดับสูง Credit Rating A- (Stable) ได้อย่างต่อเนื่อง