เอกชนเห็นด้วย กนง.คงดอกเบี้ย 1.5% คาดเก็บกระสุนไว้ปลายปี
ภาคเอกชนมองอัตราดอกเบี้ยคงเหมาะสมต่อเศรษฐกิจ ชี้ไม่กระทบมาก เชื่อคนละครึ่งรอบใหม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นและกระจายรายได้สู่ผู้ค้ารายย่อย
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงมติคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่มีมติ 5 ต่อ 2 คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1.5% ต่อปี ว่า ขณะนี้ เงินบาทเริ่มอ่อนค่า แม้เงินจะเข้าสู่ภาวะเงินฝืดทางเทคนิค เชื่อว่า กนง. คงมีความเห็นว่าการลดดอกเบี้ยนโยบายที่ผ่านมา อยู่ในระดับ 1.5% ต่อปี นั้น น่าจะเป็นอัตราที่เหมาะสม
สำหรับปัญหาของภาคสถาบันการเงินในเวลานี้ คือ จะต้องปล่อยให้เศรษฐกิจฟื้น และทำให้หนี้เสียที่ค้างชำระเกิน 90 วัน หรือ NPL คลายตัวลดลง เมื่อหนี้ NPL คลายตัวลงจะช่วยให้การปล่อยสินเชื่อไปได้ดี ซึ่ง กนง. คงคาดการณ์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัว และยังมีพื้นที่ที่จะลดอัตราดอกเบี้ยได้อีก หากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศลดดอกเบี้ย ไทยน่าจะลดตาม เพื่อไม่ให้ค่าเงินบาทไทยไม่แข็งค่า
ตอนนี้ ที่ค่าเงินบาทอยู่ในระดับ 32.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นอัตราที่ กนง. เห็นว่า ทั้งอัตราเงินเฟ้อและอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งแนวโน้มของเงินเฟ้อจะต้องกลับมาเป็นบวก หลังจากที่มีนโยบายคนละครึ่งพลัส กนง. อาจจะเก็บกระสุนไว้พิจารณาอีกครั้งในช่วงปลายปีอาจจะเหมาะสมกว่า
นายธนวรรธน์ กล่าวด้วยว่า การพิจารณาดอกเบี้ยในขณะนี้จะต้องดูภาพรวมเศรษฐกิจร่วมด้วยว่า ขณะนี้เศรษฐกิจเริ่มฟื้น ธนาคารจะต้องเร่งปล่อยสินเชื่อ ส่วนสถานการณ์เศรษฐกิจในขณะนี้แม้ยังไม่ลดดอกเบี้ยก็ไม่ได้แย่ อาจจะผิดคาดจากที่หลายคนได้ประมาณการไว้เท่านั้น จุดที่สำคัญมากกว่า คือ สิ่งที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)และรัฐบาลต้องทำร่วมกันคือ ทำให้ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินรัฐปล่อยสินเชื่อเข้าสู่ระบบ
โดยแนวนโยบายที่รัฐบาลคิดอยู่ คือ การตั้งบริษัทจัดการสินทรัพย์ (AMC) เพื่อไปซื้อหนี้ NPL ประชาชนรายย่อยที่มีมูลหนี้ไม่เกิน 100,000 บาท หากเป็นทางออกที่ดีสำหรับ SME และรายย่อย ธปท. ควรไปหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อหาแนวทางร่วมกันว่าจะให้ AMC ไปซื้อหนี้ NPL จากธนาคารที่เป็นหนี้ SME ได้มากน้อยแค่ไหน
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่สำคัญไม่ใช่การลดดอกเบี้ยแต่เป็นปล่อยสินสู่ระบบเศรษฐกิจ ล่าสุด มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้สำรวจธุรกิจทั่วประเทศ พบว่า ธุรกิจต้องการเข้าถึงสินเชื่อ ดังนั้น กลไลของการปล่อยสินเชื่อโดยให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม บสย. ปล่อยสินเชื่อธุรกิจ SME และทำร่วมกับนโยบายที่ควรจะทำ ร่วมกับโครงการคนละครึ่งพลัส คาดว่าจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยไปสู่การฟื้นตัว
ด้านนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. เปิดเผยว่า ถึงแม้จะไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ว่าจะลดไป 0.25% ตามธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด ภาคเอกชน ก็มองว่าไม่ได้เป็นปัญหา
แต่มองว่า ถ้าเกิด กนง.มีการลดอัตราดอกเบี้ยลง จะทำให้ต้นทุน ทางการเงินของผู้กู้เงินและผู้ประกอบการลดลง และอาจจะช่วยค่าเงินบาทให้อ่อนค่าลงได้ แต่ผลออกมาเป็นแบบนี้ก็คงต้องหามาตรการอื่นเพื่อมาดูแลค่าเงินบาท เพราะสิ่งที่ภาคเอกชนกังวลมากที่สุดคือ ต้นทุน และค่าเงินบาท
ส่วน โครงการคนละครึ่งพลัส ของรัฐบาลจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นได้แน่นอนในช่วง 4 เดือนนี้ เพราะโครงการคนละครึ่ง เคยได้ผลมาแล้ว ขณะที่ปัจจุบันมีการปรับปรุงให้เงินเพิ่มในกลุ่มจ่ายภาษีถูกต้องได้รับเงินมากกว่ากลุ่มอื่น และการใช้จ่ายครั้งนี้น่าจะกระจายไปสู่ผู้ค้ารายย่อยได้มากขึ้น ซึ่งตรงกับที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนิยามว่าโครงการควรสั้น แต่ให้ผลระยะยาว
BTC
ETH
DOGE
ADA
BNB
KUB