หุ้นไทย (2 ก.พ.64) ปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,486.25 จุด เพิ่มขึ้น +8.20 จุด
หุ้นไทย (2 ก.พ.64) ปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,486.25 จุด เพิ่มขึ้น +8.20 จุด (+0.55%) มูลค่ากรซื้อขาย 77,033.49 ล้านบาท
ยอด “เราชนะ” มากกว่า 8.05 ล้านคน เตรียมตรวจสอบสถานะ 8 ก.พ. 64
สำรวจการค้าไทย-เมียนมาเปิดด่านชายแดน กลับเข้าสู่ปกติ
บทเรียน GAMESTOP พลังรายย่อยสั่งสอนรายใหญ่ สะเทือนนักลงทุนตลาดหุ้นวอลล์สตรีท
หุ้นไทย (2 ก.พ.64) ปิดการซื้อขายช่วงเช้าที่ระดับ 1,486.22 จุด เพิ่มขึ้น +8.17 จุด มูลค่ากรซื้อขาย 42,063.72 ล้านบาท และ 5 อันดับการซื้อขายร้อนแรงสุด พร้อมแนวโน้มลงทุนภาคบ่าย
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างเคลื่อนไหวในแดนบวก จากจีนกลับมาอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มหลังจากสัปดาห์ที่แล้วดึงเงินกลับจากกังวลภาวะฟองสบู่
นอกจากนี้ อินเดียก็มีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ด้วยการเพิ่มงบประมาณรายจ่ายของปี 64-65 ซึ่งจะเริ่มในเดือน มี.ค.นี้ เป็นการกระตุ้นการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงฝั่งสหรัฐฯในเรื่อง Gamestop ก็ลดความผันผวนลงด้วย ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนโดยรวมตลาดในเอเชียดูดีขึ้น
อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ในวันพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) และการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ในสัปดาห์หน้า
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐพล กล่าวว่า ตลาดคงจะยังเคลื่อนไหวในแดนบวก แต่โอกาสขึ้นแรงคงไม่ง่าย พร้อมให้แนวรับ 1,480-1,485 จุด ส่วนแนวต้าน 1,495-1,500 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,516.77 ล้านบาท ปิดที่ 39.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,626.59 ล้านบาท ปิดที่ 132.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,527.20 ล้านบาท ปิดที่ 62.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,130.05 ล้านบาท ปิดที่ 10.70 บาท ลดลง 0.60 บาท
JMART มูลค่าการซื้อขาย 983.12 ล้านบาท ปิดที่ 23.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท
เปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,490.09 จุดเพิ่มขึ้น +12.04 จุด (0.81%) มูลค่าการซื้อขาย 3,852.06 ล้านบาท คาด ฟื้นตัวขึ้นตามตลาดหุ้นทั่วโลก ติดตามการประชุม ครม.จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมอีกหรือไม่
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นตามตลาดหุ้นทั่วโลก โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก และราคาน้ำมันก็ปรับตัวขึ้นมาถึง 2.6% ด้วย จึงน่าจะช่วยหนุนตลาดได้บ้าง ท่ามกลางปัจจัยโดยรวมยังไม่เปลี่ยนแปลง ดังนั้น จีงมองเป็นการเก็งกำไรระยะสั้นหลังปรับตัวลงไปก่อนหน้านี้
ราคาทองวันนี้ –2 ก.พ. 64 ปรับราคา 5 ครั้ง
“ไบเดน” ขู่ฟื้นมาตรการคว่ำบาตรเมียนมา
อย่างไรก็ดี วันนี้ให้ติดตามการประชุม ครม.จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมอีกหรือไม่ และพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) ติดตามการประชุม กนง.จะมีมุมมองต่อเศรษฐกิจระยะข้างหน้าอย่างไร
ส่วนปัจจัยนอกประเทศต้องติดตามตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของทั่วโลก และวันที่ 4 ม.ค.จะมีการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)
พร้อมให้แนวรับ 1,470-1,472 จุด ส่วนแนวต้าน 1,490-1,500 จุด
ดาวน์โจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (1 ก.พ.)ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,211.91 จุด เพิ่มขึ้น 229.29 จุด (+ 0.76%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,773.86 จุด เพิ่มขึ้น 59.62 จุด (+1.61%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,403.39 จุด เพิ่มขึ้น 332.70 จุด (+2.55%)
ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 5.53 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 116.43 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 485.26 จุด
ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (1 ก.พ.) ปิดที่ 53.55 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.35 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (1 ก.พ.) อยู่ที่ 1.81 ดอลลาร์/บาร์เรล
เงินบาท เปิด 29.95/98 ตลาดรอดูทิศทางเศรษฐกิจจาก กนง.พรุ่งนี้ ให้กรอบ 29.95-30.10