หุ้นไทยวันนี้ (3 ส.ค.64) ปิดพุ่ง 15.40 จุด

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ค่อนข้างดี เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวกราว 0.5-0.8% เช่นเดียวกับตลาดยุโรปเทรดบ่ายนี้บวกเฉลี่ย 0.3%

สมาคมประกันยันฯ คุ้มครองป่วยโควิด-19 Home isolation ย้อนหลัง

กรณี “แอชตัน อโศก” อาจทำให้การซื้อคอนโดมิเนียมเปลี่ยนไป

ตลาดบ้านเราปรับตัวลงไปมากแล้ว และสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 วันนี้จำนวนผู้หายป่วยกลับบ้านสูงขึ้นมาใกล้เคียงกับจำนวนผู้ติดเชื้อ ทำให้แรงกดดันคลายตัวลง ดังนั้น หุ้นกลุ่มแบงก์จึงฟื้นกลับมาได้หลังราคาลงไปมากแล้วย

อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯที่ออกมาในวันศุกร์นี้ และจับตานโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในระยะถัดไปด้วย

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (4 ส.ค.) นายณัฐพล กล่าวว่า ตลาดฯยังมีโอกาสรีบาวดึ์ขึ้นได้หลังจากช่วง 1 เดือนครึ่งที่ผ่านมา ดัชนีฯร่วงไปราว 100 จุด จึงเชื่อว่าน่าจะได้เห็นการฟื้นตัวขึ้นบ้าง พร้อมให้แนวรับ 1,525-1,530 จุด ส่วนแนวต้าน 1,540-1,550 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,541.72 ล้านบาท ปิดที่ 105.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,486.00 ล้านบาท ปิดที่ 177.00 บาท ลดลง 3.50 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,641.04 ล้านบาท ปิดที่ 96.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,476.82 ล้านบาท ปิดที่ 35.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,475.43 ล้านบาท ปิดที่ 13.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท

หุ้นไทยวันนี้ (3 ส.ค.64) ปิดครึ่งเช้าที่ 1,536.21 จุด เพิ่มขึ้น 11.10 จุด (+0.73%) มูลค่าการซื้อขายราว 37,590 ล้านบาท

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นมาได้ดีกว่าคาด ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ลบกัน โดยเฉพาะตลาดหุ้นญี่ปุ่น,เกาหลี,ฮ่องกง ต่างปรับลง ยกเว้นตลาดกลุ่ม TIP ปรับขึ้นมาได้ โดยนักลงทุนเวียนมาเล่นหุ้นขนาดใหญ่บางตัวหลังราคาลงไปมากแล้ว 

ปิดธนาคารในห้าง 29 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มชั่วคราว

ราคาทองวันนี้ – 3 ส.ค. 64 เปิดตลาด ไม่มีการปรับเปลี่ยนราคา

แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ยังหนักอยู่ โดยจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดวันนี้อยู่ที่กว่า 18,000 ราย

 

แต่ผู้ป่วยหายกลับบ้านได้เพิ่มขึ้น 18,000 รายเช่นกัน ขณะที่ตลาดฯปรับตัวลงสะท้อนไปในระดับหนึ่งแล้ว ทำให้เกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์

อย่างไรก็ดี แนะติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันพรุ่งนี้ (4 ส.ค.) คาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับเดิม ส่วนปัจจัยนอกประเทศให้ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯศุกร์นี้ และอัตราว่างงานของสหรัฐฯ

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯคงแกว่งตัวในกรอบสลับแรงขายเข้ามาบ้าง พร้อมให้แนวรับ 1,520 จุด ส่วนแนวต้าน 1,535-1,540 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,928.08 ล้านบาท ปิดที่ 176.50 บาท ลดลง 4.00 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,320.15 ล้านบาท ปิดที่ 105.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท

RCL     มูลค่าการซื้อขาย  1,048.92  ล้านบาท  ปิดที่  56.75 บาท ลดลง    2.25 บาท

DTAC    มูลค่าการซื้อขาย    928.88  ล้านบาท  ปิดที่  36.75 บาท ลดลง    0.75 บาท

SCB     มูลค่าการซื้อขาย    866.42  ล้านบาท  ปิดที่  96.00 บาท เพิ่มขึ้น   2.25

หุ้นไทยวันนี้ (3 ส.ค.64) เปิดการซื้อขาย 1,527.63    จุด เพิ่มขึ้น +2.52 จุด (+0.17%) มูลค่าการซื้อขาย 5,963.92 ล้านบาท คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์อิงขึ้นได้เล็กน้อย  ติดตามผลประชุม ครม. 

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์อิงขึ้นได้เล็กน้อย คล้ายกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้เคลื่อนไหวไซด์เวย์ทั้งในแดนบวก-ลบสลับไม่เกิน 0.5% หลังจากราคาน้ำมันปรับตัวลงแรงกว่า 3% จากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดทั่วโลกสูงขึ้นเป็น 5-6 แสนรายต่อวัน จากเดิม 3 แสนรายต่อวัน และดัชนีภาคการผลิตของจีนและสหรัฐเริ่มชะลอลง ทำให้เห็นภาพเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า

โควิดระบาดในโรงงานผลิตอาหาร พบ 7 คลัสเตอร์ใหม่ เช็กสถานการณ์ 77 จังหวัด เปิดท็อป 10

บขส.หยุดเดินรถทุกเส้นทางเริ่ม 3 ส.ค.จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง

 

ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราวานนี้เริ่มเห็นการรีบาวด์กลับหลังลงไปทดสอบ 1,513 จุด และนักลงทุนต่างชาติก็เริ่มกลับมาซื้อหลังจากมองว่าจุดนี้ต่ำแล้ว อาจทำให้เกิด Cover short ได้ และจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศก็ยังทรงตัวแถว 17,000-18,000 จุด แม้จะยังสูงแต่ดีที่ไม่เร่งตัวขึ้นไปอีก ซึ่งยังเป็นปัจจัยที่ถ่วงตลาดฯให้อยู่ในลักษณะซึม ๆ

วันนี้ต้องติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อาจออกมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิดระบาดออกมาเพิ่มเติม และการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 2/64 โดยวันนี้มี ADVANC รวมถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันพรุ่งนี้ ส่วนต่างประเทศช่วงนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศสำคัญ

พร้อมให้แนวรับ 1,520-1,513 จุด ส่วนแนวต้าน 1,530-1,538 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (2 ส.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,838.16 จุด ลดลง 97.31 จุด (-0.28%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,387.16 จุด ลดลง 8.10 จุด (-0.18%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,681.07 จุด เพิ่มขึ้น 8.39 จุด (+0.06%)

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,446.78 จุด ลดลง 17.51 จุด (-0.50%), ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,580.03 จุด ลดลง 200.99 จุด (-0.72%) และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 26,289.06 จุด เพิ่มขึ้น 53.26 จุด (+0.20%)

ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (2 ส.ค.) ปิด 71.26 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 2.69 ดอลลาร์ หรือ 3.6% ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (2 ส.ค.) อยู่ที่ 3.33 ดอลลาร์/บาร์เรล

เงินบาทเปิด 32.95 ตัวเลขศก.สหรัฐกดดันดอลล์อ่อน คาดกรอบวันนี้ 32.90-33.05