Digital Banking Disrupt ธนาคาร "4 ปี ปิดสาขากว่าพันแห่ง"
สำรวจสาขาแบงก์ไทย 4 ปี ลด 1,000 กว่าสาขา หลังถูก Disrupt จากทั้ง โมบาย แบงก์กิ้ง อินเทอร์เน็ต แบงก์กิ้ง ที่ยกธุรกรรมการเงินไว้เพียงปลายนิ้ว ขณะที่ ธนาคารทั่วโลก 100 ประเทศยุบสาขาไปแล้ว เกือบ 60,000 สาขาในช่วง 10 ปี
การเข้าสู่ยุคดิจิทัล โมบาย แบงก์กิ้ง – อินเทอร์เน็ต แบงก์กิ้ง เกิดขึ้น แทบทุกธุรกรรมทางการเงินจากที่ต้องไปสาขาธนาคาร สามารถทำทุกอย่างได้บนสมาร์ทโฟน หรือ คอมพิวเตอร์ เพียงแค่ต้องมีสัญญาณอินเทอร์เน็ต ง่าย เร็ว ไม่ยุ่งยาก
ผู้โอน-ผู้รับ ทำอย่างไรเมื่อ “เงินเข้าผิดบัญชี”
วัคซีนโควิด-19 ยังจำเป็น แต่ไม่เพียงพอ ฟื้นเศรษฐกิจไทย
ที่สำคัญคือ “ค่าธรรมเนียมการโอนเงิน ค่าธรรมเนียมการให้บริการต่างๆ หายไป” คือหนึ่งในตัวเร่งสำคัญที่ทำให้สาขาธาคารปิดลง เพื่อลดต้นทุนทั้งอาคารสถานที่ พนักงาน ค่าดูแลรักษาต่างๆ แล้วให้น้ำหนักการลงทุนไปที่การพัฒนาระบบดิจิทัล
ข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทยช่วงปี 2561-2564 พบว่า จำนวนสาขาภายในประเทศของธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง ลดลงถึง 1,085 สาขา โดย
- ปี 2561 มีจำนวน 6,735 สาขา
- ปี 2562 เหลือ 6,508 สาขา
- ปี 2563 เหลือ 6,167 สาขา
ขณะที่ข้อมูลล่าสุด เดือน ธ.ค. 2564 จำนานสาขาธนาคารในประเทศ อยู่ที่ 5,650 สาขา
ถ้าดูเฉพาะ 5 ธนาคารใหญ่ คือ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ พบว่า
- ธนาคารไทยพาณิชย์ ลดจำนวนสาขาลงมากที่สุด ในช่วง 4 ปี คือ จาก 1,101 สาขาในปี 2561 เหลือ 754 สาขา ในปี 2564 ลดลง 347 สาขา
- รองลงมาคือ ธนาคารกรุงไทย ลดลง 140 สาขา เหลือ 981 สาขา แต่เพิ่มขึ้นจากปี 2563 (980 สาขา) จำนวน 1 สาขา
- ขณะที่ ธนาคารกสิกรไทย ลดลง (ปี 2561) 119 สาขา เหลือ 842 สาขาในปี 2564
- ธนาคารกรุงเทพ ลดลง 102 สาขา เหลือ 1,059 สาขา
- และ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ลดลง 62 สาขา เหลือ 642 สาขา
เช่นเดียวกับสถานการณ์ในต่างประเทศ พบว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาจำนวนสาขาของธนาคารใน 100 ประเทศลดลง ถึง 56,000 สาขา หรือคิดเป็น 14%
ข้อมูลดังกล่าวเป็นไปตามทิศทางเดียวกับข้อมูลของกองทุนการเงินระหว่างประเทศของธนาคารพาณิชย์ สหรัฐฯ ระบุว่า ปี 2020 ปีเดียว มีธนาคารในสหรัฐปิดตัวลงถึง 1,500 สาขา ถ้าโซนยุโรปอย่างในอิตาลีลดลงถึง 800 สาขา
ถ้าขยับใกล้ประเทศไทยเข้ามาอีกหน่อยก็คือ ญี่ปุ่น ซึ่งก่อนหน้านี้อุตสาหกรรมการเงินของญี่ปุ่นเริ่มต้นการทำธุรกรรมทางออนไลน์ช้ากว่าหลายประเทศและมีแนวโน้มที่จะต่อต้านความเปลี่ยนแปลงนี้ แต่ผลการสำรวจของสถาบันวิจัย Daiwa พบว่า ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าธนาคารใหญ่ๆ ในเมืองต่างๆ จะปิดสาขาลงประมาณ 1,000 สาขา หรือคิดเป็นเกือบ 10% ของสาขาธนาคารทั่วประเทศ เช่น U.S. Bancorp ลดจำนวนสาขาจาก 2,800 เป็น 2,400 ในปี 2020 เนื่องจากลูกค้า 80% ได้เปลี่ยนมาใช้ระบบออนไลน์ แบงก์กิ้ง
หรือ Wells Fargo ซึ่งสาขาของธนาคาร 5,032 แห่ง ณ สิ้นปี 2020 และลดลงประมาณ 300 สาขาเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แต่ในส่วนของโมบาย แบงก์กิ้งกลับมีลูกค้าเพิ่มขึ้นถึง 1.6 ล้านคน
และ Mitsubishi UFJ Financial Group วางแผนที่จะลดจำนวนสาขาลงมากกว่า 20% ระหว่างปีงบประมาณ 2020-2023
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของสาขาธนาคารในญี่ปุ่นยังทรงตัวในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยเฉลี่ย 34 สาขา ต่อ จำนวนลูกค้า 100,000 คน ขณะที่สหรัฐฯ การเพิ่มจำนวนสาขาจากเฉลี่ย 35 สาขาลดลงเหลือ 30 สาขา
แต่อีกด้านหนึ่ง คือ ยอดการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันด้านการเงินก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 1.2 พันล้านครั้งทั่วโลก (ณ เดือน มิ.ย.2021) สวนทางกับการลดจำนวนสาขาของธนาคารทั่วโลกที่มีแนวโน้มลดลงอย่างชัดเจน
ข้อมูล : ธนาคารแห่งประเทศไทย