GPSC เจอพิษคว่ำบาตรรัสเซีย ดันต้นทุนพลังงานพุ่ง ลุ้นกำไรฟื้นครึ่งปีหลัง 65
คาดกำไร GPSC ในไตรมาส 1/2565 ลดลง 70.9% จากไตรมาสก่อน เจอแรงกดดันต้นทุนก๊าซและถ่านหินเพิ่มขึ้น จากคว่ำบาตรพลังงานรัสเซีย
GPSC เผยปี 64 กำไรสุทธิ 7,319 ล้านบาท ลดลง 3% ปันผล 1 บาท/หุ้น ขึ้น XD 24 ก.พ.
"เอสซีจี" กำไรลดฮวบ 41% ไตรมาส 1 ที่ 8,844 ล้านบาท
โดยคาดการณ์ GPSC (บมจ. โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่) กำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2565 ลดลง 70.9% จากไตรมาสก่อน สาเหตุจากรายการพิเศษที่บันทึกเป็นกำไรลดลง และกำไรปกติที่คาดจะลดลงจากต้นทุนก๊าซและถ่านหินที่เพิ่มขึ้น แม้รายได้ขายไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นด้วยก็ตาม แต่ชดเชยไว้ไม่หมด
ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส วิเคราะห์ว่า GPSC กำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2565 อยู่ที่ประมาณ 340.3 ล้านลาท หรือลดลง 70.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
เนื่องจากถูกกดดันจากรายการพิเศษ ในงวดนี้คาดบันทึกเป็นกำไรลดลงเหลือ 26.8 ล้านบาท ได้แก่ กำไรจากการขายโรงไฟฟ้าอิติโนเซกิ ประเทศญี่ปุ่น ราว 492 ล้านบาท ค่าตัดจำหน้ายสินทรัพย์สุทธิโรงไฟฟ้า GLOW ราว 27.7 ล้านบาท และขาดทุน FX และการวัดมูลค่าเครื่องมือทางการเงิน สุทธิ 27.7 ล้านบาท
"หุ้น-ทองคำ"ทะยาน รับเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.50% น้อยกว่าคาดการณ์
ด้านกำไรการเดินงานปกติ คาดจะปรับลดลงประมาณอยู่ที่ 313.5 ล้านบาท หรือ 58.3% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากต้นทุนก๊าซธรรมชาติและถ่านหินที่คาดว่าจะปรับตัวขึ้นต่อเนื่องประมาณ 440.0 บาทต่อล้านบีทียู และ 220.0 ดอลลาร์ต่อตัน ถึงแม้จะรายได้จากการขายไฟฟ้าแก่รัฐ แต่ไม่สามารถชดเชยได้ทั้งหมด ส่งผลให้อัตรกำไรขั้นต้นลดลงอยู่ที่ 1.1 พันล้านบาท หรือลดลง 38.5% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะเดียวกันส่วนแบ่งกำไรจาเงินลงทุนในบริษัทร่วมจะลดลง 105.9 ล้านบาท คาดจากผลประกอบการของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ XPCAL ที่ปรับตัวลดลงตามฤดูกาล
อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีแรงหนุนชดเชยบางส่วน 68.2% % เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 472.2 ล้านบาท จากค่าใช้จ่ายพนักงานที่คาดว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับปกติ และค่าใช้จ่ายทางภาษีลดลง 25.5% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 72.1 ล้านบาท
ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ปรับลดประมาณการณ์กำไรปี 2565-66 ลด 25.1% และ 18.0% เทียบจากปีก่อน อยู่ที่ 5.8 พันล้านบาท และ 7.7 พันล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งสะท้อนราคาต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 1/2565 จากการคว่ำบาตรการนำเข้าเชื้อเพลิงพลังของราเซียจากนานาชาติ โดยส่งผลต่อความกัววลด้านซัพลาย (Supply) ในตลาดโลก
ภายใต้ประมาณการณ์ใหม่ ส่งผลให้กำไรปกติปี 2565 คาดปรับตัวลดลง 24.9% เทียบจากปีก่อน โดยให้น้ำหนักของกำไรไปในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 เนื่องจากคาดว่าราคาต้นทุนพลังงานจะเริ่มปรับตัวลดลง และแรงหนุนจากขึ้นค่า ft ในปี 2565 ขณะที่ในปี 2566 คาดกำไรปกติเริ่มกลับฟื้นตัวราว 23.1% เทียบจากปีก่อนหน้า
ทั้งนี้ในช่วงไตรมาส 2/2565 คาดจะกลับมาเริ่มฟื้นตัวได้บ้าง จากการเข้าสู่ ไฮท์ซีซั่นของฤดูกาลใช้ไฟฟ้าในประเทศไทย และการกลับมาเดินเครื่องของโรงไฟฟ้า GLOW Energy phase 5 ได้เต็มไตรมาส รวมถึงการประกาศขึ้นค่า ft รอบใหม่อีก 23.4 สตางค์ ตั้งแต่เดือน พ.ค.-ส.ค.2565 และยังรับรู้ส่วนแบ่งรายได้ของโรงไฟฟ้า XPCL
อย่างไรก็ตามต้นทุนพลังงานที่ยังอยู่ในระดับสูงยังคงเป็นปัจจัยกดดันหลักต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีแรก 2565
ส่งผลให้มูลค่าพื้นฐาน GPSC ปี 2565 อยู่ที่ 82.5 บาท/หุ้น แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นผ่านการปรับฐานลงมาแล้วกว่า 24% แต่อาจมีแรงกดดันจากรายงานผลปรกอบการไตรมาส 1/2565 ที่ย่ำแย่จากปัจจัยด้านต้นทุนพลังงาน
“นายก” ดันอาชีพอิสระ เน้นลงทุนน้อย ทำง่าย รายได้ดี สอดรับช่วงโควิด