หุ้นเข้าสู่ "แดนหมี" หลังดาวโจนส์ดิ่งเหว ตื่นเงินเฟ้อพุ่ง แนะชะลอลงทุน
ดัชนีดาวโจนส์ร่วงหนักเกือบพันจุด ตลาดหุ้นสหรัฐเข้าสู่ "ตลาดหมี" หลังเงินเฟ้อพุ่งเกินคาด ประเมินเฟดใช้ยาแรง แนะขายทำกำไรและชะลอลงทุน
ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงหนัก หลังจากรายงานเงินเฟ้อพุ่งขึ้นทุบสถิติอีกครั้ง นักลงทุนเทขายอย่างหนักในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐส่งสัญญาณเข้าสู่ภาวะ "ตลาดหมี" ไปเรียบร้อย โดยคาดว่าจะฉุดบรรยากาศการลงทุนทั่วโลกซบเซาตามไปด้วยในสัปดาห์หน้า
นักลงทุนยังจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในวันที่ 14-15 มิ.ย.นี้ โดยตลาดคาดว่าเฟดอาจจะใช้ "ยาแรง" ขึ้นดอกเบี้ยถึง 0.75% มากกว่าคาดการณ์ก่อนหน้านั้นว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% คำถามตามมาคือภาวะเช่นนี้จะทำอย่างไรดี
เงินเฟ้อสหรัฐเดือนพ.ค.ทะยาน 8.2% คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรง 0.75%
ซิตี้แบงก์คาดเงินเฟ้อไทยปีนี้พุ่ง 5.6% กนง.ขึ้นดอกเบี้ยครึ่งปีหลัง
ดัชนี S&P500 ในรอบ 6 เดือน
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตบาดหุ้นสหรัฐร่วงลงหนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. จากเงินเฟ้อสหรัฐในเดือนพ.ค.พุ่งสูงขึ้นกว่าที่คาดไว้ ทำให้ตลาดคาดว่าเฟดจะใช้ยาแรงเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
หุ้นเทคโนโลยีและหุ้นพื้นฐาน เผชิญกับแรงเทขายอย่างหนัก โดยเฉพาะหุ้นไมโครซอฟท์ แอเมซอนและแอปเปิล ทำให้ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลงอย่างหนัก
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 1.0% จากเดือนเม.ย. มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.7% สวนทางกับบรรดานักวิเคราะห์ว่าในเดือนเม.ย.จะเป็นจุดสูงสุด จากนั้นจะค่อย ๆ ปรับลง แต่การพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อในเดือนพ.ค. ทำให้ผิดการคาดการณ์อย่างมาก
เงินเฟ้อตั้งแต่ปี 2081 มากที่สุดอยู่ที่ 8.6% ซึ่งในเดือนพ.ค. เงินเฟ้อ 8.3% นับเป็นเดือนที่สองที่มีอัตราเงินเฟ้อมากที่สุดในรอบ 40 ปี
ตลาดหุ้นสหรัฐและตลาดหุ้นทั่วโลกค่อนข้างผันผวนจากแรงกดดันเงินเฟ้อและการปรับนโยบายของเฟด รวมถึงความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับภาวะถดถอยจากผลกระทบสงครามรัสเซีย-ยูเครน และผลกระทบจากโควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลายมากนัก โดยเฉพาะในจีนที่ประกาศล็อกดาวน์ครั้งใหม่
ดาวโจนส์ ปิดตลาดวันศุกร์ ร่วง 880 จุด หรือ 2.73% ปิดที่ 31,392.79 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 116.96 จุด หรือ 2.91% ปิดที่ 3,900.86 จุด และดัชนี Nasdaq Composite ร่วงหนัก 414.20 จุด หรือ 3.52% ปิดที่ 11,340.02 จุด
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นสัปดาห์ที่ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงหนักตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค. โดยดาวโจนส์ ร่วง 4.58% ดัชนี S&P 500 ร่วง 5.06% และ ดัชนี Nasdaq ร่วง 5.60% โดยเฉพาะดัชนี S&P 500 ในปีนี้ร่วงถึง 18.2%
นักวิเคราะห์กล่าวว่าสัญญาณตลาดได้เข้าสู่ภาวะ "ตลาดหมี" ไปเรียบร้อยแล้ว และอาจจะมีแรงเทขายมากขึ้นหลังการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า โดยแนะว่าหากใครยังไม่ได้ซื้อให้ชะลอการลงทุนไปก่อน ส่วนผู้ที่มีอยู่แล้วและเป็นหุ้นพื้นฐานให้ถือต่อไป และอาจขายทำกำไรออกมาบางส่วน เพื่อลดความเสี่ยง