ก.ล.ต.เชือด “บิทคับ-สตางค์โปร” เว็บเทรดคริปโทฯ สร้างโวลุ่มปลอม
ก.ล.ต.ลงโทษ 7 ผู้กระทำความผิด สร้างปริมาณเทียมจับคู่ซื้อขายคริปโทฯกันเองภายในศูนย์ซื้อขาย “บิทคับ-สตางค์โปร”
ก.ล.ต. สั่ง “บิทคับ” ส่งแผน-แก้ไขระบบใน 5 วัน เผยโดนร้องเรียนอื้อ
“บิตคอยน์” ร่วง 4 วันติด หลุด 20,000 ดอลลาร์อีกครั้ง
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2565 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รายงานพบเหตุสงสัยว่าอาจมีการสร้างปริมาณเทียมในศูนย์ซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล หรือคริปโทเคอร์เรนซี ในของ บิทคับ (Bitkub) และ สตางค์โปร (Satang Pro) ซึ่งจากการตรวจสอบพบการกระทำเข้าข่ายความผิดหลายบุคคล แบ่งเป็น
ศูนย์ซื้อขาย “บิทคับ” ผู้กระทำผิดจำนวน 3 ราย ได้แก่
1.บริษัทบิทคับ
2.นายอนุรักษ์ เชื้อชัย
3.นายสกลกรย์ สระกวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้มีอำนาจจัดการของบริษัทบิทคับ
นายสกลกรย์ ได้ทำสัญญากับนายอนุรักษ์ ให้ทำหน้าที่ดูแลสภาพคล่อง (Market Maker) ในศูนย์ซื้อขายบิทคับ และได้ให้นายอนุรักษ์ยืมเงิน เพื่อใช้ในการทำหน้าที่ดังกล่าว ซึ่งพบว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 นายอนุรักษ์ได้ส่งคำสั่งจับคู่ซื้อขายเหรียญคริปโทเคอร์เรนซี จำนวน 4 เหรียญ ได้แก่ Bitcoin (BTC) Bitcoin Cash (BCH) Ethereum (ETH) และ Ripple (XRP)
ขยายช่วยลูกหนี้ NPL ผ่อนเงินงวดต่ำ ดอกเบี้ยเงินกู้พิเศษ อีก 1 ปี
โดยเป็นการจับคู่ซื้อขายกันเองในบัญชีซื้อขายเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีของตนเองในศูนย์ซื้อขายบิทคับ ซึ่งการจับคู่ซื้อขายกันเองในแต่ละเหรียญดังกล่าว มีสัดส่วนตั้งแต่ร้อยละ 84 – 99 ของปริมาณการซื้อขายทั้งหมดของนายอนุรักษ์ และตั้งแต่ร้อยละ 57 – 99 ของปริมาณการซื้อขายรวมทั้งตลาด ซึ่งบริษัทบิทคับ และนายสกลกรย์รับทราบถึงการจับคู่ซื้อขายกันเองในบัญชีซื้อขายของนายอนุรักษ์ แต่ไม่ได้มีการทักท้วงการส่งคำสั่งซื้อขายเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีของนายอนุรักษ์ดังกล่าว
การกระทำของบริษัทบิทคับและนายอนุรักษ์เป็นความผิดฐานส่งคำสั่งซื้อหรือขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือซื้อหรือขายสินทรัพย์ดิจิทัล คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติลงโทษดังนี้
- ให้บริษัทบิทคับ ชำระค่าปรับ 8,053,764 บาท
- ให้นายอนุรักษ์ ชำระค่าปรับ 8,053,764 บาท ห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล 6 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร 12 เดือน
- ให้นายสกลกรย์ ชำระค่าปรับ 8,053,764 บาท และรับผิดในมาตรการลงโทษทางแพ่ง รวมถึงห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล 6 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร 12 เดือน
ศูนย์ซื้อขาย “สตางค์โปร” ผู้กระทำผิดจำนวน 4 ราย ได้แก่
1.บริษัทสตางค์
2. บริษัท LLC Fair Expo
3. นายปรมินทร์ อินโสม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้มีอำนาจจัดการของบริษัทสตางค์ 4. Mr. Mikalai Zahorski เจ้าของและกรรมการผู้จัดการ ของบริษัท LLC Fair Expo
นายปรมินทร์ ได้ทำสัญญากับบริษัท LLC Fair Expo ให้ทำหน้าที่ดูแลสภาพคล่อง (Market Maker) ในศูนย์ซื้อขาย สตางค์โปร และได้ให้วงเงินซื้อขาย เพื่อใช้ในการทำหน้าที่ดังกล่าว ซึ่งพบว่าในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 บริษัท LLC Fair Expo ได้ส่งคำสั่งจับคู่ซื้อขายเหรียญคริปโทเคอร์เรนซี จำนวน 3 เหรียญได้แก่ Bitcoin (BTC) Ethereum (ETH) และ Ripple (XRP)
โดยเป็นการจับคู่ซื้อขายกันเองในบัญชีซื้อขายเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีของ Market Maker ในศูนย์ซื้อขายสตางค์โปร ซึ่งการจับคู่ซื้อขายกันเองในแต่ละเหรียญดังกล่าวมีสัดส่วนตั้งแต่ร้อยละ 96 – 99 ของปริมาณการซื้อขายทั้งหมดของบัญชีซื้อขายของ Market Maker หรือคิดเป็นร้อยละ 81 – 97 ของปริมาณการซื้อขายรวมทั้งตลาด ทั้งนี้ การทำหน้าที่ของ Market Maker ได้มีการนำส่งรายงานการซื้อขายในบัญชี Market Maker ให้บริษัทสตางค์รับทราบทุกเดือน
คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติลงโทษดังนี้
- ให้บริษัท LLC Fair Expo ชำระค่าปรับ 6,040,323 บาท และห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล 6 เดือน
- ให้นายปรมินทร์ ชำระค่าปรับ 6,040,323 บาท ร่วมรับผิดในมาตรการลงโทษทางแพ่ง พร้อมห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล 6 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารเป็นเวลา 12 เดือน
- ให้ Mr. Mikalai ชำระค่าปรับ 6,040,323 บาท ร่วมรับผิดในมาตรการลงโทษทางแพ่ง พร้อมห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล 6 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารเป็นเวลา 12 เดือน
KBTG แจกทุนวิจัย นศ.ไทย MIT Media Lab ส่งเสริมเทคโนโลยีพัฒนาชีวิตมนุษย์
ตรวจหวย - ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ลอตเตอรี่ 1/7/65