ต่างชาติซื้อไม่หยุด คาดเล็งเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว ดันเงินทุนไหลเข้าต่อเนื่อง
ตลาดหุ้นไทย ยังคงมีกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าไม่หยุด โบรกชี้เศรษฐกิจไทยกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัวพร้อมกับหลายชาติในเอเชีย
ค่าเงินบาทแข็งขึ้น เปิด 36.08 บาทต่อดอลลาร์ จับตาการเมืองในประเทศ
OR รุกธุรกิจความงาม-สุขภาพ ทุ่ม 144 ล้าน ลงทุน GoWabi
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส เผยผ่านบทวิเคราะห์ระบุว่า เริ่มเห็นสัญญาณบวกจาก กระแสเงินทุน (FUND FLOW) ต่อเนื่อง ซึ่งยังมีหลายปัจจัยที่สร้างแรงดึงดูดเงินทุนให้ไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยเพิ่ม โดยจากภาพใหญ่ในทางเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วง ฟื้นตัว (Recovery) สวนทางกับหลายประเทศที่อยู่ในภาวะชะลอตัวไปจนถึงถดถอย (Recession)
ทั้งนี้ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประจำไตรมาส 2 ปี 2565 ได้สร้างสถิติใหม่อยู่ที่ 3.48 แสนล้านบาท
ทำให้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนปี 2565 คาดอัตราการเติบโต (EPS Growth) ที่ +9.7% จากปีก่อน (YoY) และเติบโตต่อเนื่องในปี 2566 อีก +6%
ขณะที่อีกทางหนึ่งพบว่า สัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นไทย ปัจจุบันยังต่ำกว่าภาวะปกติมากเกินไป โดยมีสัดส่วนการถือครองที่ปิดโอนฯ ในชื่อนักลงทุนต่างชาติไม่ถึง 22% เทียบกับค่าเฉลี่ยนับจากปี 2547 จนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 26.5%
เมื่อวานนี้ (24 ส.ค.65) SET Index ปิดตลาด +17.75 จุด ที่ 1,633.57 จุด ต่างชาติซื้อสุทธิ 4,790 ล้านบาท โดยตั้งแต่ต้นปี 65 ต่างชาติซื้อหุ้นไทยสะสมแล้ว 166,548 ล้านบาท ต่างจากสถาบันในประเทศ และนักลงทุนในประเทศที่ยังคงเทขาย
เทียบภาวะเศรษฐกิจ 4 โซน
โดยหลังจากที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง เนื่องจากรารคาสินค้าและบริการต่าง ๆ ปรับตัวสูงขึ้น จนเป็นเหตุให้เศรษฐกิจในหลายประเทศชะลอลง ฝ่ายวิจัยฯได้แบ่งประเภทของเศรษฐกิจ ออกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
1. ภาวะถดถอยทางเทคนิค (Technical Recession) อาทิ สหรัฐฯ และไต้หวัน ผลิตภัณฑ์รวมในประเทศ หรือจีดีพี (GDP) หดตัวติดต่อเนื่องกัน 2ไตรมาส
2. จีดีพี ในไตรมาส 2 ติดลบ 1 ไตรมาส อาทิ อังกฤษ จีน สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ ซึ่งหากไตรมาสถัดไป จีดีพี ติดลบต่อเนื่อง จะเข้าสู่นิยาม Technical Recession ทันที
3. ชะลอตัวลง (Slowdown) อาทิ เยอรมนีที่ จีดีพี ไตรมาส 2 อยู่ที่ 0% จากไตรมาสก่อน ซึ่งมีโอกาสที่ จีดีพี ไตรมาสถัดไปจะหดตัว จากประเด็นการคว่ำบาตรรัสเซีย และราคาก๊าซที่ปรับตัวขึ้น หลังรัสเซียปิดท่อส่งก๊าซไปยุโรป 3 วัน ซึ่งหากมีก๊าซธรรมชาติส่งมาไม่เพียงพอต่อการกักตุน ก็อาจสร้างปัญหาใหญ่ หรือวิกฤตทางพลังงานและเศรษฐกิจได้
4. ฟื้นตัว (Recovery) อาทิ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทยที่ โดย จีดีพี ไตรมาส 1/65 เติบโตถึง +1.2%จากไตรมาสก่อน แม้ในไตรมาส 2/65 จะปรับตัวลงเหลืออยู่ที่ +0.7% จากไตรมาสก่อน แต่ยังถือว่าอยู่ในระดับที่สูงใกล้เคียงประเทศในแถบเอเชีย บวกกับฝ่ายวิจัยฯคาดว่าเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวเด่น จากการกลับมาเปิดประเทศ และผ่อนคลายมาตรการโควิด-19
ขณะเดียวกันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯ อาทิ โครงการคนละครึ่งเฟสที่ 5 ซึ่งหากพิจารณาจากสำนักเศรษฐกิจหลายสำนักให้ อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP Growth) ปลายปีนี้อยู่ที่ +3% ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง จีดีพีในไตรมาส 3 และ 4 จะต้องสูงมากกว่า 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจาก 2 ไตรมาสแรกของปี65 อยู่ต่ำกว่าระดับ 3%
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจเริ่มชะลอตัวลงในฝั่งประเทศพัฒนาแล้ว สวนทางเศรษฐกิจฝั่งเอเชียที่กำลังจะฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 65 ถือเป็นแรงหนุนให้เงินทุนต่างชาติไหลกลับฝั่งเอเชีย รวมถึงไทย โดยวันนี้คาดกรอบการเคลื่อนไหว SET Index ที่ระดับ 1622 -1642 จุด