หุ้นเอเชียเขียวยกแผง ไทยปิดภาคเช้า +15.15 จุด รับ เฟด อาจชะลอดอกเบี้ย
ตลาดหุ้นเอเชียปรับบวกยกแผง รับข่าว ประธานเฟด ส่งสัญญาณชะลอขึ้นดอกเบี้ย หนุนกระแสเงินทุนไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยง ด้านตลาดหุ้นไทย (SET Index) ปิดภาคเช้าบวก 15.15 จุด นำโดย DELTA ซื้อขายสูงสุด 5,206 ล้านบาท
เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นจากโควิดแบบ"ไม่ทั่วถึง" ธุรกิจขนาดเล็กอาการหนัก
ราคาทองวันนี้ "ไม่ขยับ" ตลาดต่างประเทศพุ่ง แต่บาทแข็งช่วยฉุดราคา
เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2565 ตลาดหุ้นเอเชียเช้าวันนี้ ต่างปรับตัวขึ้นสูง ท่ามกลางเงินดอลลาร์อ่อนค่า หลัง โจ พาวเวล ประธานาธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด (Fed) ส่งสัญญาณว่า สามารถชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้ อย่างเร็วที่สุดคือเดือน ธ.ค. หลังใช้ลดเงินเฟ้อเริ่มได้ผล ทำให้กระแสเงินลงทุนเริ่มกลับมาไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงทันที
ด้านตลาดหุ้นไทย ดัชนี SET Index ภาคเช้าปรับขึ้น +15.15 จุด หรือ 0.93% ปิดที่ 1,650.51 จุด มูลค่าซื้อขายรวม 42,566 ล้านบาท
นำโดยหุ้น DELTA มูลซื้อขายสูงสุด 5,206 ล้านบาท รองลงมา BDMS มูลค่าซื้อขาย 1,893 ล้านบาท และ SIRI มูลค่าซื้อขาย 1,688 ล้านบาท
ตลาดหุ้นญี่ปุ่น Nikkei ปรับขึ้น 1.12% หรือ +312.28 จุด ที่ระดับ 28,281.27 จุด
ดัชนี CSI300 ของจีน ปรับขึ้น 1.35% หรือ +52.63 จุด อยู่ในระดับ 3,905.40 จุด
ดัชนี Hang Seng ตลาดหุ้นฮ่องกง ปรับขึ้น 1.39% หรือ +258.05 จุด อยู่ที่ 18,855.28 จุด
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ปรับขึ้น 1.10% หรือ +163.17 จุด อยู่ที่ 15,042.72 จุด
ดัชนี KRX 100 ของเกาหลีใต้ ปรับขึ้น 0.31% หรือ +15.51 จุด อยู่ที่ 5,021.30 จุด
ดัชนี S&P/ASX 200 ของออสเตรเลีย ปรับขึ้น +0.96% หรือ 70.20 จุด ปิดอยู่ที่ 7,354.40จุด
ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับลดลง 8.3 basis points ที่ 3.618% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ อายุ 2 ปี ลดลง 5.2 basis points ที่ 4.321%
ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับลดลง 0.42% อยู่ที่ 105.49 ดอลลาร์ ต่ำสุดในรอบ 3 วัน
ทั้งนักวิเคราะห์ มองว่า เป็นเรื่องยากมากในตอนนี้ ที่ เฟด จะหนุนความคาดหวังของตลาดด้วยการชะลอขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งต้องหวังว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงลดลงเรื่อย ๆ ต่อไป
ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส (ASPS) เผยผ่านบทวิเคราะห์ว่า ตลาดการเงินไทย เดือน พ.ย. ต่างชาติซื้อสุทธิทั้งตลาดหุ้น 847 ล้านเหรียญ และตลาดตราสารหนี้ 1,813 ล้านเหรียญ ซึ่งถ้าแรงกดดันจากการขึ้นดอกเบี้ยและเงินเฟ้อลดน้อยลง น่าจะเห็นการไหลกลับเข้ามาทั้งในตลาดการเงิน ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อตลาดหุ้น
โดยสะท้อนได้จากการศึกษาของฝ่ายวิจัยฯ เรื่องความสัมพันธ์เวลากระแสเงินทุน (Fund Flow) ไหลเข้าตลาดหุ้น และตลาดตราสารหนี้พร้อมกันรายเดือน (ช่วง 2009 –2022 ) พบว่า SET Index มักปรับตัวเฉลี่ยขึ้นได้ดีถึง 3.85% ต่อเดือน และมีโอกาสให้ผลตอบแทนนเป็นบวก 86%
แต่ถ้าซื้อเฉพาะหุ้นอย่างเดียว และขายตราสารหนี้ SET ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยจะลดลงมาอยู่ที่ 1.74% ต่อเดือน และถ้าขายหุ้นแต่ยังซื้อตราสารหนี้ SET ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย -0.8% ต่อเดือน และที่แย่ที่สุดคือ ขายทั้งหุ้นและตราสารหนี้ SET ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย -1.8% ต่อเดือน
อย่างไรก็ตาม ยังคงเห็นแนวโน้ม Fund Flow ไหลเข้าตลาดการเงินไทย ทั้งจากค่าเงินบาทที่ แข็งค่า และแรงกดดันการขึ้นดอกเบี้ยโลกลดลง ซึ่งตราบที่ Fund Flow ยังไหลเข้า ตลาดการเงินของไทยต่อ น่าจะช่วยหนุนให้ดัชนีขึ้นไปทดสอบที่แนวต้านแรก 1650 จุดและแนวต้านถัดไป 1670 จุด ในเดือนธ.ค. ได้