เศรษฐกิจไทยคาดโตต่อ ลุ้นการลงทุน-มาตรการกระตุ้น แนะ 8 หุ้นได้อานิสงส์
เวิลด์แบงก์ (World Bank) ปรับลดประมาณการ GDP ไทยปีหน้า 2566 เหลือ 3.6% แต่โบรกฯคาดเศรษฐกิจยังโตต่อเนื่อง ลุ้นปัจจัยหนุนการลงทุนรัฐและเอกชน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งภาคท่องเที่ยว พร้อมแนะ 8 หุ้นที่ได้ประโยชน์
เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ตามคาด พร้อมส่งสัญญาณขยับถึงปีหน้า
จีนผ่อนโควิด ลุ้นเปิดประเทศดันเศรษฐกิจฟื้น เจาะหุ้นไทย 8 กลุ่มได้ประโยชน์
เมื่อคืนที่ผ่านมา คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ของ เฟด มีมติเอกฉันท์ขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.50% สู่ระดับ 4.25-4.50% สูงสุดในรอบ 15 ปี โดย นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐ ยืนยันว่า จะยังคงไม่หยุดขึ้นดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ แต่จะต้องใช้ความรัดกุมในการขึ้นดอกเบี้ย เพื่อลดเงินเฟ้อลงให้อยู่ระดับ 2%
ทั้งนี้ เฟด คาดว่าจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% ในปี 2566 สู่ระดับ 5.00-5.25%
โดยปี 2567 มีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 1.0% สู่ระดับ 4.00-4.25% และในปี 2568 ลดอีก 1.0% สู่ระดับ 3.00-3.25% ก่อนที่อัตราดอกเบี้ยระยะยาวจะปรับตัวสู่ระดับ 2.5% ตามเป้าหมาย
ด้านฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส (ASPS) ระบุว่า เศรษฐกิจไทยปี 65 ขยายตัวได้รวดเร็ว หลังการบริโภคเอกชนเติบโตต่อเนื่อง จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มกลับมาฟื้นตัว
สำหรับปี 66 ไทยอาจเผชิญกับการชะลอตัวลงในภาคการค้าและการลงทุนตามเศรษฐกิจโลกที่เข้าสู่ภาวะถดถอย ล่าสุดมีสำนักเศรษฐกิจ 2 แห่ง ได้ปรับประมาณการณ์การเติบโตเศรษฐกิจ (GDP) ของไทย ประกอบด้วย
1. ธนาคารโลก (World Bank) ประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 65 จะขยายตัวสู่ระดับ 3.4%YoY จากเดิม 2.9%YoY ขณะที่ปี 66 ได้ปรับลดการขยายตัวเป็น 3.6%YoY จากเดิม4.1%YoY)
2. ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 65 จะขยายตัวสู่ระดับ 3.2%YoY จากเดิม 2.9%YoY ขณะที่ปี 66 ได้ปรับลดการขยายตัวเป็น 4.0%YoY จากเดิม 4.2%YoY
แม้ GDP ของไทยจะถูกปรับลดประมาณการลงมาในปี66 แต่โดยภาพรวมยังถือว่าขยายตัวได้ดีกว่าหลายประเทศ เฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว โดย สหรัฐฯ เติบโต 1.3%YoY, ยุโรป เติบโต 1.0%YoY, อังกฤษ ลดลง 0.1%YoY, ญี่ปุ่น เติบโต 1.5%YoY
ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯ คาดหวังว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตมากขึ้นจากปัจจัยภายในประเทศเป็นหลัก ทั้งการลงทุนของภาครัฐและเอกชนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เช่น เราเที่ยวด้วยกัน ช้อปดีมีคืน ฯลฯ รวมถึงภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดว่าในปี 66 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าของปีนี้ หรือราว 20 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยแนะนำหุ้นกลุ่ม Domestic Play (หุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจ) ได้แก่ STEC, CK, AP, CRC, COM7, AOT, CENTEL, ERW