หุ้น DELTA มูลค่ายังแพง คาดกำไรโต แต่ชะลอตัวลง พิษเงินบาทแข็ง
โบรกฯ ประเมินหุ้น DELTA มูลค่าแพงเกินไป แม้คาดการณ์กำไรไตรมาส 4/65 เพิ่มขึ้น 90% เพราะได้ปัจจัยหนุนคำสั่งซื้อชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รถไฟฟ้า แต่ในปี 2566 จะเติบโตชะลอตัวลง เหตุเงินบาทแข็งค่าไม่หยุดกดดันผลกำไร
หุ้น DELTA ร้อนแรงไม่เกรงใจใคร เหตุผล 3 ข้อนักลงทุนต้องระวัง!
“DELTA” มูลค่าบริษัททะลุ 1.16 ล้านล้านบาท แซงหน้า AOT - PTT
หุ้น DELTA หรือ บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หุ้นร้อนแรงที่สุดในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา หลังได้กลับเข้าในดัชนี SET 50 จนราคาพุ่งขึ้นทะยาน All Time High ที่ 990 บาทต่อหุ้น โดยหากย้อนกลับไปตั้งแต่ปลาย มิ.ย. 65 จนถึงปัจจุบัน พบว่ามูลค่าหุ้น DELTA ปรับขึ้นมาถึง 240 % ภายในเวลาเพียงครึ่งปี ส่งผลให้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดในตลาดหุ้นไทย แต่ล่าสุด (13 ม.ค.65) ราคาหุ้นย่อตัวลงมา ปิดภาคเช้าที่ระดับ 828 บาทต่อหุ้น
ย้อนกลับไปเมื่อปลายปี 2564 หุ้น DELTA เคยทำ All Time High ที่ราคา 844 บาทต่อหุ้น
หลังจากนั้นราคาก็ร่วงแรงมากถึง 100% แม้มูลค่าหุ้นจะกลับมาฟื้นตัวได้ แต่ก็ยังคงถูกเทขายต่อเนื่องจนราคาลงไปแตะ 290 บาท/หุ้น ในขณะนั้น หุ้น DELTA จึงกลายเป็นกระแสที่ร้อนแรงอย่างมาก เนื่องจากจะมีความผันผวนมากแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อดัชนีตลาดหุ้นด้วย
ด้านผลประกอบการ DELTA ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส (ASPS) คาดการณ์ว่าจะมีกำไรในไตรมาส 4 ปี 65 เท่ากับ 4,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +90.3% จากปีก่อน (YoY) และลดลง -3% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) ได้ปัจจัยหนุนจากกคำสั่งซื้อชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า ศูนย์จัดเก็บข้อมูลและโทรคมนาคมเติบโตต่อเนื่อง แต่ยังมีบันทึกผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 100 ล้านบาท
สำหรับทั้งปี 2565 ฝ่ายวิจัยฯ เอเซียพลัส คาดการณ์กำไรสุทธิอยู่ที่ 15,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +126.0% YoY และปี 2566 คาดมีกำไรสุทธิ 16,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +6.1% YoY
ทั้งนี้ในช่วงไตรมาส 1 ปี 66 จะได้รับผลกระทบจากแนวโน้มค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นจากงวดไตรมาส 4 ปี 65 กดดันแนวโน้มประสิทธิภาพการกำไรให้ลดลงในงวดไตรมาส 1 ปี 66
ขณะที่ DELTA ตั้งเป้าหมายรายได้รวมปี 2566 เติบโตต่อเนื่องราว 10-20% YoY จากแนวโน้มคำสั่งซื้อในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า ศูนย์จัดเก็บข้อมูล (Data center) และพัดลมระบายความร้อนจะเติบโตต่อเนื่อง ซึ่ง DELTA มีการขยายโรงงานรองรับแนวโน้มคำสั่งซื้อในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าและศูนย์จัดเก็บข้อมูลที่เพิ่มขึ้นไว้แล้ว คาดจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ในช่วงครึ่งหลังปี 2566
อย่างไรก็ตามแม้ภาพรวมธุรกิจจะยังเติบโตดีต่อเนื่อง แต่ฝ่ายวิจัยฯ เอเซียพลัส ประเมินว่าราคาปัจจุบันหุ้นยังมีมูลค่าแพง กำหนด FV ปี 2566 เท่ากับ 440 บาท สะท้อนจากค่า P/BV ปี 2566 ที่สูงถึง 17 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ย Historical PBV band ย้อนหลัง 10 ปี อยู่ถึง 2.5 SD และ PER ปี 2566 ที่สูงถึง 64 เท่าสูงกว่าค่าเฉลี่ย Historical PBV และ PER band ย้อนหลัง 10 ปีอยู่ 1.5 SD