BCH ซื้อที่ดิน 350 ล้านบาท ตั้ง รพ.ใหม่ ในสมุทรปราการ เปิดปี 69

บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติเข้าซื้อที่ดินตั้งอยู่ที่ ตำบลบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ เนื้อที่ 25 ไร่ มูลค่าทั้งสิ้น 350 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายกิจการโรงพยาบาลแห่งใหม่ภายใต้ชื่อ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ สุวรรณภูมิ คาดว่าจะเริ่มก่อนสร้างได้ภายในปี 2567 และเปิดบริการภายในปี 2569

โดย BCH ระบุว่า จังหวัดสมุทรปราการตั้งอยู่บนพื้นที่เชิงยุทธศาสตร์ที่มีศักยภาพรองรับการเจริญเติบโตของกรุงเทพมหานคร ซึ่งสะดวกต่อการคมนาคมขนส่ง และเป็นที่ตั้งของท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ รวมถึงเป็นพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมที่มีปริมาณโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมาก

ทั้งนี้ในปี 2565 จังหวัดสมุทรปราการมีจำนวนผู้ประกันในโครงการประกันสังคมกว่า 881,000 ราย ซึ่งสัดส่วนประชากรกว่า 67% ของประชากรทั้งหมด อยู่ในวัยทำงานที่มีอายุระหว่าง 15-59 ปี

สำหรับการการขยายกิจการโรงพยาบาลครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายกิจการในระย 5 ปี ข้างหน้าของ  BCH เพื่อขยายฐานผู้ป่วยทั่วไปชาวไทย ชาวต่างชาติ และผู้ป่วยในโครงการประกันสังคม

 

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี มองว่า  โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ สุวรรณภูมิ (KHS) ตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ และนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่ง โดย BCH จะจับกลุ่มผู้ป่วยทั้งประเภทที่ชำระเงินสด และใช้สิทธิ์ประกันสังคม ซึ่งจะช่วยสนับสนุนแผนของบริษัทที่จะเพิ่มโควตาประกันสังคมจากปัจจุบันที่ 1.5 ล้านราย เป็น 1.8 ล้านราย

ทั้งนี้ มีการประเมินว่าสมาชิกประกันสังคมในจังหวัดสมุทรปราการ มีจำนวน 881,000 ราย คู่แข่งหลักในพื้นที่ได้แก่ โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์เนชั่นแนล, จุฬารัตน์ 5, Princ สุวรรณภูมิ, ศิครินทร์, บางนา 2, บางบ่อ และ รวมชัยประชารักษ์

โดยการดำเนินการนี้ยืนยันมุมมองว่า BCH จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในภาคตะวันออก ซึ่งนอกจาก BCH แล้ว ยังมี BDMS, CHG และ THG มีแผนจะเปิดโรงพยาบาลใหม่ในพื้นที่ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ด้วย เชื่อว่าการแข่งขันจะมากขึ้นในภาคตะวันออก แต่อุปสงค์ก็เติบโต เนื่องจากสมุทรปราการเป็นเมืองที่จะรองรับการเติบโตของกรุงเทพมหานคร ซึ่ง CHG มีส่วนแบ่งตลาดสูงในปัจจุบัน

สำหรับโครงการนี้มีมูลค่าเงินลงทุนรวม 1.6 พันล้านบาท แบ่งเป็น 350 ล้านบาท เป็นค่าที่ดินและ 1.25 พันล้านบาท เป็นค่าก่อสร้างและอุปกรณ์ โดย BCH มีเงินสด 2.4 พันล้านบาท และสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน ณ ไตรมาส 3 ปี 65 เพียง 0.3x เท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมีลูกหนี้การค้าและรายได้ค้างรับรวม 6.7 พันล้านบาท (ส่วนใหญ่จาก SSO และ UCEP) หากรวมส่วนนี้แล้วจะทำให้บริษัทมีเงินสดสุทธิรวม 3.1 พันล้านบาท จึงคาด โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ สุวรรณภูมิ จะมีผลขาดทุนในช่วง 3 ปีแรก แต่จะเป็น S curve ใหม่ของบริษัทในระยะยาว