“ทิสโก้” ชี้เลือกตั้ง ช่วยหนุนตลาดหุ้นไทย มีลุ้น 1,750-1,780 จุด
บล.ทิสโก้ คาดนายกฯ ยุบสภาปลาย มี.ค. 66 มองเลือกตั้งช่วยหนุนตลาดหุ้นไทยมีลุ้น 1,750-1,780 จุด แต่อาจไม่ทะลุ 1,800 จุดในปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกเสี่ยงถดถอย และนโยบายการเงินเข้มงวดของธนาคารกลาง พร้อมแนะ 8 หุ้นมีงบดี ปันผลเด่น และได้ปัจจัยบวก
รัฐบาลจ่อยุบสภา มอบหมายฝ่ายกฎหมายเตรียมพร้อม
“กรุงศรี” รุกหนักอาเซียน ดันรายได้ปี 66 รับกำลังศึกษา Virtual Bank
“ซิตี้แบงก์” ฟันธงดอกเบี้ยพุ่งแตะ 2.25% ในไตรมาส 3 มอง ศก.ไทยยังโต
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า โอกาสเกิดการยุบสภาและการเลือกตั้งในประเทศไทย เริ่มใกล้เข้ามาทุกขณะ โดยประเมินว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะตัดสินใจยุบสภาภายในปลายเดือน มี.ค. จากนั้นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 45 - 60 วัน ดังนั้น จะเหลือเวลาก่อนการเลือกตั้งอีกประมาณ 3 เดือนเศษ
โดยอิงจากการศึกษาความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยในช่วงก่อนการเลือกตั้ง 3 เดือน, 2 เดือน และ 1 เดือน มักจะให้ผลตอบแทนเป็นบวกเฉลี่ย +5.6%, +2.5% และ +2.3% ตามลำดับ และมีระดับความเชื่อมั่นโดยเฉลี่ยที่สูงประมาณ 70% ดังนั้นแนวโน้มการเลือกตั้งยังเป็นปัจจัยบวกเฉพาะตัวที่สำคัญ ที่ทำให้ บล.ทิสโก้ ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วง 3-4 เดือนข้างหน้านี้ โดยมีฐานที่ระดับ 1,700-1,720 จุด และกรณีดีที่ระดับ 1,750-1,780 จุด
ทั้งนี้ บล.ทิสโก้ มองว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) จะยังไม่สามารถขึ้นทะลุระดับ 1,800 จุดได้ภายในปีนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลกเสี่ยงถดถอยและการตรึงนโยบายการเงินที่เข้มงวดต่อไปของธนาคารกลางสำคัญต่าง ๆ ของโลก ซึ่งยังไม่รวมถึงประมาณการ GDP และกำไรบริษัทจดทะเบียนไทยที่มีโอกาสถูกปรับลงตามที่กล่าวไว้ในตอนต้นแล้ว
อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญของตลาดหุ้นไทยในช่วง 3-4 เดือนข้างหน้า แต่ด้วยโอกาสปรับขึ้น (Upside) ของตลาดที่เริ่มมีจำกัด ดังนั้นการเลือกหุ้นต่อจากนี้จะต้องรอบคอบมากขึ้น โดยหุ้นที่คาดงบจะออกมาดี, หุ้นปันผลเด่น และหุ้นที่คาดมีปัจจัยบวกเฉพาะยังเป็นหุ้นที่น่าเก็งกำไรหลักในเดือนกุมภาพันธ์ แนะนำ AP, BBL, CKP, GLOBAL, MAJOR, MAKRO, PRM และ TIPH
ด้านแนวรับสำคัญของ SET Index เดือน ก.พ. 66 อยู่ที่ 1,660-1,670 จุดและแนวรับถัดไปที่ 1,640 จุด และแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 1,700 จุด 1,720 จุด และแนวต้านถัดไปที่ 1,740-1,750 จุด ตามลำดับ
ขณะที่ประมาณการกำไรของตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับลงเช่นกัน หลังงบกลุ่มแบงก์โดยรวมต่ำกว่าคาดมาก และการประกาศผลประกอบการของหุ้นใน Real Sector ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ม.ค. 66 ที่ผ่านมา มีสัญญาณที่ไม่ค่อยดีนัก ส่วนใหญ่มีกำไรต่ำกว่าคาดอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งตั้งแต่ต้นปีนี้ (YTD) บล.ทิสโก้ มองเห็นสัญญาณตลาดปรับประมาณการกำไร (SET EPS) ปี 2566 – 2567 ลงมาแล้ว -1.9% และ -0.4% มาอยู่ที่ 99.6 บาท/หุ้น และ 116.2 บาท/หุ้น ตามลำดับ ซึ่งประมาณการกำไรของตลาดมีแนวโน้มถูกปรับลง จะเป็นตัวจำกัดโอกาสปรับขึ้น (Upside) ของตลาดหุ้นในระยะถัดไป
นอกจากนี้ จากข้อมูลความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา พบว่าดัชนีหุ้นไทย (SET Index) เดือน ก.พ. มักปรับตัวขึ้น โดยมีระดับความเชื่อมั่นสูงถึง 85% และให้ผลตอบแทนเป็นบวกเฉลี่ยที่ +1.3% รวมถึงหุ้นที่ปันผลดีมักปรับตัวขึ้นดีกว่าตลาด อิงจากสถิติย้อนหลัง 8 ปีที่ผ่านมา ผลตอบแทนรวมของ SETHD Index ในเดือน ก.พ. จะดีกว่าผลตอบแทนรวมของ SET Index เฉลี่ย +1.7% โดยมีระดับความเชื่อมั่นสูงถึงเกือบ 90%