ADVANC กำไร 2.6 หมื่นล้าน ลด 3.4% จ่ายปันผลหุ้นละ 4.24 บาท
ADVANC กำไรปี 2565 ลดลงเล็กน้อย 3.4% อยูู่ที่ 26,011 ล้านบาท จากต้นทุนเพิ่ม จ่ายปันผลหุ้นละ 4.24 บาท ขึ้น XD 22 ก.พ. และจ่ายวันที่ 19 เม.ย.
บริษัท แอดวานซ์อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ AIS รายงานผลประกอบการในปี 2565 มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 26,011 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 3.4% เนื่องจากต้นทุนดำเนินการเพิ่มขึ้น โดยคณะกรรมการฯอนุมัติปันผลหุ้นละ 4.24 บาท วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 23 ก.พ. 2566 และ วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) วันที่ 22 ก.พ. 2566 และวันที่จ่ายปันผล ในวันที่ 19 เม.ย. 2566
บอร์ด ADVANC อนุมัติเข้าซื้อ 3BB – JASIF เตรียมขออนุญาต กสทช.
แอดวานซ์ จับมือกัลฟ์-สิงเทล รุกหนักธุรกิจศูนย์ข้อมูล
ในปี 2565 เอไอเอส มีรายได้รวม อยู่ที่ 185,485 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากรายได้จากการให้บริการหลักปรับตัวดีขึ้นและการขายโทรศัพท์มือถือที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการเปิดตัว iPhone เร็วกว่าปีที่แล้วหนึ่งไตรมาส แม้จะเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อซึ่งจำกัดกำลังซื้อของผู้บริโภคก็ตาม
ในปี 2565 ต้นทุนการบริการ อยู่ที่ 87,076 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน ได้รับผลกระทบจากราคาค่าสาธารณูปโภคที่พุ่งสูงขึ้น และต้นทุนของบริการคลาวด์ที่มากขึ้นสอดคล้องกับยอดขายบริการคลาวด์ในลูกค้าองค์กรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในปีนี้
ค่าใช่จ่ายในการขายและการบริหาร อยู่ที่ 22,353 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่มากขึ้นตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ชดเชยด้วยความพยายามในการบริหารต้นทุน รวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพและประสิทธิผลในทุก ๆ ด้าน ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการบริหารปรับตัวลดลง
กำไรสุทธิตามรายงานอยู่ที่ 26,011 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 3.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนเนื่องจากความท้าทายทางด้านต้นทุนในการดำเนินงาน แม้จะมีผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีขึ้นและต้นทุนทางการเงินที่ลดลงก็ตาม
ทั้งนี้ ในปี 2565 จำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อยู่ที่ 46 ล้านเลขหมาย แสดงถึงจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านเลขหมาย หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 4.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเป็นผู้ใช้บริการระบบเติมเงินเพิ่มขึ้น 859,000 เลขหมาย และผู้ใช้บริการระบบรายเดือนเพิ่มขึ้น 1 ล้านเลขหมายเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2564 แม้ว่าผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะเบาบางลง
แต่จากสถานการณ์เศรษฐกิจมหภาคที่แย่ลง ตัวเลขเงินเฟ้อที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้นจนส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพ และผลกระทบจากการแข่งขันด้านราคาที่ยืดเยื้อจากปัจจัยกำลังซื้อผู้บริโภคลดต่ำลงในกลุ่มที่มีความอ่อนไหวต่อราคาส่งผลให้ ARPU เฉลี่ยปรับตัวลดลงร้อยละ 4.6 เมื่อเทียบกับปีก่อน เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ARPU เฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้น 0.8% จากฤดูกาลที่มีนักท่องเที่ยวขาเข้าและขาออกเพิ่มขึ้น การเพิ่มขึ้นนี้รวมถึงผลของความพยายามของเอไอเอสที่จะเพิ่มรายได้ที่ก่อให้เกิดกำไรในลูกค้าบางกลุ่มด้วยจำนวนลูกค้าเอไอเอสไฟเบอร์ยังคงรักษาแนวโน้มที่ดีอย่างต่อเนื่องและมีจำนวนผู้ใช้บริการอยู่ที่ 2.2 ล้านราย ณ สิ้นปี 2565 ด้วยจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้น 400,000 ราย หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับปีก่อน
การเพิ่มขึ้นนี้เกิดจากการขยายการให้บริการครอบคลุมไปยังพื้นที่ชานเมืองมากขึ้นด้วยราคาแพ็กเกจที่เข้าถึงได้ง่ายพร้อมกับประสบการณ์การเชื่อมต่อและคุณภาพการให้บริการที่ดี รวมถึงความพยายามในการรักษาลูกค้าเดิมเพื่อลดอัตราการยกเลิกการใช้บ ริการให้น้อยลง
อย่างไรก็ตามการแข่งขันด้านราคาได้มีความรุนแรงอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีจากการเสนอแพ็กเกจราคาต่ำในผู้ให้บริการทุกรายเพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมและหาลูกค้าใหม่ ส่งผลให้ ARPU ลดลง 8.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน และลดลง 2.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
ราคาหุ้น ADVANCE ปิดตลาดวันนี้ (9 ก.พ.) บวก 4 บาท หรือ 2.05% อยู่ที่ 199.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,314.73 ล้านบาท