“DELTA” แตกพาร์เหลือ 0.10 บาท กำไรปี 65 พุ่ง 1.5 หมื่นล้าน
“เดลต้า อีเลคโทรนิคส์” (DELTA) เสนอผู้ถือหุ้นอนุมัติแตกพาร์เหลือหุ้นละ 0.10 บาท โดยวันที่มีผลในระบบซื้อขายจะเป็นไปตามที่ตลาดหลักฯกำหนด พร้อมแจกปันผล 4 บาท/หุ้น ขึ้น XD 28 ก.พ.66 ขณะที่ปี 65 มีกำไรสุทธิ 15,345 ล้านบาท โตพุ่ง +29%
“DELTA” มูลค่าบริษัททะลุ 1.16 ล้านล้านบาท แซงหน้า AOT - PTT
หุ้น DELTA ร้อนแรงไม่เกรงใจใคร เหตุผล 3 ข้อนักลงทุนต้องระวัง!
เมื่อ 15 ก.พ. 2566 บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA รายงานผลดำเนินงานประจำปี 2565 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 15,345 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,645.5 ล้านบาท หรือ +129% จากปีก่อน และมีรายได้จากการขาย 118,558 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34,239.6 ล้านบาท หรือ +40.61% จากปีก่อน
โดยเป็นผลมาจากความต้องการที่สูงขึ้นของผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูลบนคราวน์ (CloudStorage) และระบบศูนย์ข้อมูล (Data Center)
รวมถึงผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์การควบคุมอุณหภูมิความร้อนในนยานยนต์
ขณะที่รายได้อื่น ราว 331 ล้านบาท มาจากเงินชดเชยค่าประกันความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในไตรมาส 3 ปี 64
ทั้งนี้บริษัทยังรับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเท่ากับ 450 ล้านบาท ลดลง 568 ล้านบาท จากปีก่อน เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นอย่างมาก
ด้านค่าใช้จ่ายการดำเนินงานเท่ากับ 13,447.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,012.1 ล้านบาท หรือ +17.6% จากปีก่อน สาเหตุจากการเพิ่มขึ้นของค่าขนส่ง รวมถึงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในการวิจัยและพัฒนาในยุโรปเพื่อตอบสนองต่อลูกค้าค่ายรถยนต์ไฟฟ้า
ณ วันที่ 31 ธ.ค. 65 บริษัทฯมีสินทรัพย์รวม 90,984 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +31.2% จากปีก่อน และมีหนี้สินรวม 36,305 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +30% จากปีก่อน ขณะที่มีเงินสดและเงินฝากธนาคาร รวม 10,142 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +54.3% จากปีก่อน
ขณะเดียวกันคณะกรรมการบริษัทเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผล ในอัตราหุ้นละ 4 บาท กำหนดรายชื่อผู้ได้รับสิทธิ วันที่ 1 มี.ค. 2566 ( ขึ้นเครื่องหมาย XD 28 ก.พ.66) และจ่ายปันผลวันที่ 28 เม.ย. 2566
นอกจากนี้ยังเสนอให้อนุมัติแปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ (แตกพาร์) จากเดิมมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เป็นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.1 บาท ส่งผลให้จำนวนหุ้นจากเดิม 1,247,381,614 หุ้น หลังแตกพาร์จะมีจำนวนเท่ากับ 12,473,816,140 หุ้น